Page 23 - Q2-ManualConsult ภ.2
P. 23
13
มีความเขาใจซึ่งกันและกัน เพื่อผลในการลดความขัดแยงหรือความอาฆาตพยาบาทตอกันอาจจะ
กอใหเกิดผลในการกระทําความผิดซ้ําไดเพราะยังมีความไมเขาใจกันอยู ดังนั้น การลงโทษโดย
วัตถุประสงคของการทดแทนหรือการลงโทษเพื่อขมขู แกไขฟนฟูหรือการตัดออกจากสังคม จึงไมอาจ
ลดอาชญากรรมหรือสามารถลดความขัดแยงระหวางคูกรณีหรือคนในสังคมไดอยางแทจริง แตกลับจะ
เพิ่มความขัดแยงระหวางคูกรณีมากขึ้น หากคูกรณีไมยอมรับในผลของคําพิพากษาหรือคําชี้ขาดตัดสิน
ของศาล เนื่องจากกระบวนการในการดําเนินคดีอาญาในศาลยุติธรรมปจจุบันอาจไมสามารถ
หาขอเท็จจริงไดจากเหตุที่พยานหลักฐาน ยังมีความไมชัดเจนในการนําสืบทําใหศาลยกฟองหรือบางกรณี
ที่การลงโทษโดยจําเลยไมยอมรับผิด จึงอาจทําใหมีความคิดในการแกแคนหลังจากที่ไดรับการปลอยตัว
51
หรือพนโทษแลว
จุฑารัตน เอื้ออํานวย (๒๕๔๘, น.๑๒๑-๑๒๒) อธิบายวา กระบวนการยุติธรรม
เชิงสมานฉันท มีรูปแบบสวนใหญเปนลักษณะของการเจรจาระหวางคูกรณีและผูเกี่ยวของที่มีประโยชน
ไดเสีย โดยไมไดเนนเพียงเพื่อระงับขอพิพาท แตเนนมุงใหคูกรณีที่เกี่ยวของเกิดความพึงพอใจ มีการ
ยอมรับผิดและใหอภัยกัน เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแกเหยื่อ และนําไปสูความสมานฉันทในสังคม
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท (Restorative Justice) เปนวิธีการไกลเกลี่ยความ
ขัดแยงหรือขอพิพาททางอาญาและขอพิพาททางแพงที่เกี่ยวเนื่องคดีอาญา โดยสหประชาชาติไดกําหนด
ไวมี ๔ รูปแบบ คือ
๑) การไกลเกลี่ยเหยื่อ-ผูกระทําผิด เปนวิธีการเผชิญหนาระหวางเหยื่ออาชญากรรมกับ
ผูกระทําผิด ซึ่งอาสาสมัครอาจทําหนาที่เปนผูประสานงานจัดการใหมีการประชุมเกิดขึ้น และมีขอสังเกต
วาตองพูดคุยทําความเขาใจกันในโลกของความเปนจริงบนฐานของความสมเหตุสมผลของทั้งสองฝาย
โดยพยายามขจัดขอขัดแยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จุดประสงคสําคัญของการไกลเกลี่ย คือ สนับสนุนให
มีการเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม โดยการจัดเวทีที่เปนกลาง ปลอดภัย และควบคุมได เพื่อใหเหยื่อได
พบปะผูกระทําผิดบนพื้นฐานของความสมัครใจ เปดโอกาสใหผูกระทําผิดไดเรียนรูผลกระทบของ
อาชญากรรมที่มีตอเหยื่อ และเขามาแสดงความรับผิดชอบตอพฤติกรรมที่ตนไดกระทําไปและใหโอกาส
ทั้งเหยื่อและผูกระทําผิดไดรวมกันพัฒนาและยอมรับแผนการเยียวยาชดใชความเสียหายนั้น
๒) การประชุมกลุมครอบครัวและชุมชน อาจจะใชโรงเรียน โบสถ หรือกลุมทางสังคม
อื่นโดยกระบวนการนี้ ย้ําถึงความเอาจริงจังของชุมชนตออาชญากรรมและความเต็มใจของชุมชนที่จะรับ
ผูกระทําผิดกลับคืนสูชุมชนอีกครั้งหนึ่งเมื่อผูกระทําผิดไดรูสึกสํานึกเสียใจตอสิ่งที่ตนกระทําแลว
มีลักษณะสําคัญ คือ ใชกับเด็กและเยาวชนที่กระทําความผิดจึงควรมีครอบครัวเขารวมประชุมดวย
เพื่อเปดโอกาสใหสมาชิกครอบครัวไดพูดคุยแสดงความรูสึกเกี่ยวกับผลกระทบที่ไดรับจากอาชญากรรม
ที่เกิดขึ้น
๓) การประชุมแบบลอมวง หรือ เรียกวา “วงกลมแหงสันติวิธี” ใชกันแพรหลายในกลุม
ชาวเมืองของทวีปอเมริกาเหนือโบราณรูปแบบนี้นิยมใชกับคดีอาญาทั้งที่ผูกระทําผิดเปนเด็กและผูใหญ
5
ณัฐวสา ฉัตรไพฑูรย,กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท : จากทฤษฎีสูทางปฏิบัติในนานาชาติ.๒๕๕๐,
น. ๗.
๒๒ คู่มือปฏิบัติงาน
การด�าเนินงานตามมาตรการพิเศษ