Page 25 - Q2-ManualConsult ภ.2
P. 25

15




                         3) Reformist  บูรณาการโดยปรับรูปแบบกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันทให
            กลมกลืนเปนสวนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก เชน การกําหนดใหเปนทางเลือกสําหรับ

            คูกรณีที่สมัครใจเขารวมหรือกําหนดใหเปนรูปแบบมาตรฐานในการปฏิบัติบางขั้นตอนสําหรับความผิด

            บางประเภท เชน การจัดประนอมขอพิพาทภายหลังสิ้นสุดการพิจารณาคดี หรือกําหนดใหนําคดีเขาสู
            กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันทในขั้นตอนการสืบเสาะและพินิจหรือกอนศาลมีคําพิพากษา


                         ๒.๑.๔ แนวคิดการคุมครองเด็กตามอนุสัญญาวาดวยสิทธิเด็ก (Convention  on  the

            Rights of the Child)

                           อนุสัญญาวาดวยสิทธิเด็กเปนขอตกลงระหวางประเทศที่จัดทําขึ้นโดย
            สหประชาชาติ (คณะกรรมาธิการดานสิทธิมนุษยชน) โดยไดรับการรับรองจากที่ประชุมสมัชชา

            สหประชาชาติ (United Nations General Assembly) ในป 2532 และประเทศไทยไดลงนามเขาเปน

            ภาคีอนุสัญญาวาดวยสิทธิเด็กเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ 2535
                         ในดานหลักการคุมครองเด็กที่มีปญหาความประพฤติหรือกระทําความผิดทางอาญา

            มุงคุมครองเด็กที่ถูกกลาวหาวากระทําผิดทางอาญาใหไดรับการปฏิบัติที่แตกตางจากผูตองหาผูใหญ
            โดยใหไดรับผลกระทบจากการตองถูกดําเนินคดีและควบคุมตัวใหนอยที่สุด และเด็กที่มีปญหาพฤติกรรม

            หรือกระทําความผิดทางอาญามีการคุมครองใหไดรับโอกาสแกไขเยียวยา ใหสามารถเติบโตเปนพลเมือง

            ที่ดีของสังคม โดยมีสมมติฐานวา เด็กกระทําการใดๆ เพราะขาดวุฒิภาวะและสิ่งแวดลอมมีอิทธิพลกดดัน
            ตอความประพฤติของเด็ก และยังมีหลักประกันมิใหเด็กตองรับโทษจําคุกตลอดชีวิตหรือ

            ประหารชีวิต โดยมีสาระสําคัญในขอ ๓๗ และ ๔๐


                           ขอ 37 รัฐภาคีประกันวา

                           1. จะไมมีเด็กคนใดไดรับการทรมาน หรือถูกปฏิบัติหรือลงโทษที่โหดรายไรมนุษยธรรม

            หรือต่ําชา จะไมมีการลงโทษประหารชีวิต หรือจําคุกตลอดชีวิตโดยไมมีโอกาสจะไดรับการปลอยตัว
            สําหรับความผิดที่กระทําโดยบุคคลที่มีอายุต่ํากวา ๑๘ ป

                           2. จะไมมีเด็กคนใดถูกลิดรอนเสรีภาพโดยไมชอบดวยกฎหมาย หรือโดยพลการ

            การจับกุมกักขังหรือจําคุกเด็กจะตองเปนไปตามกฎหมาย และจะใชเปนมาตรการสุดทายเทานั้น และให
            มีระยะเวลาที่สั้นที่สุดเปนไปอยางเหมาะสม

                          3. เด็กทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพจะไดรับการปฏิบัติดวยมนุษยธรรมและดวยความ

            เคารพในศักดิ์ศรีแตกําเนิดของมนุษยและในลักษณะที่คํานึงถึงความตองการของบุคคลในวัยนั้น
            โดยเฉพาะอยางยิ่งเด็กทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพจะตองถูกแยกตางหากจากผูใหญ เวนแตจะพิจารณา

            เห็นวาจะเปนประโยชนสูงสุดตอเด็กที่จะไมแยกเชนนั้น และเด็กจะมีสิทธิที่จะคงการติดตอกับครอบครัว
            ทางหนังสือโตตอบและการเยี่ยมเยียน เวนแตในสถานการณพิเศษ

                          4. เด็กทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพมีสิทธิที่จะขอความชวยเหลือทางกฎหมายหรือทางอื่น

            ที่เหมาะสมโดยพลัน ตลอดจนสิทธิที่จะคัดคานโดยชอบดวยกฎหมายเมื่อมีการลิดรอนเสรีภาพของ





          ๒๔   คู่มือปฏิบัติงาน
               การด�าเนินงานตามมาตรการพิเศษ
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30