Page 50 - Q2-ManualConsult ภ.2
P. 50
39 40
๒.๓.๒ วิธีการบําบัดเด็กและเยาวชน ของเขาและผลที่ตามมาคือความลมเหลวในการใหคําปรึกษา หากผูใหคําปรึกษาสังเกตเห็นความ
๒.๓.๒.๑ วิธีการใหคําปรึกษา เปลี่ยนแปลงทางความรูสึกบางอยางของผูรับคําปรึกษาเชนอาการตอตานผูใหคําปรึกษาก็ควรจะหยุด
ในการใหคําปรึกษามีขอปฏิบัติ 10 ประการที่ผูใหคําปรึกษาจะตองถือปฏิบัติ เพื่อสราง การใชเทคนิคนี้โดยทันที
ความศรัทธาและความไววางใจ โดยถือเปนหลักสําคัญของการใหคําปรึกษา ซึ่ง Roger ไดกลาวไว ดังนี้ 4) เทคนิคการใชความเงียบ การเงียบเปนกลวิธีหนึ่งที่ใชภายหลังจากที่ผูใหคําปรึกษา
1) สรางความไววางใจโดยคํานึงถึงการรักษาความลับของผูรับคําปรึกษา ปอนคําถามใหแกผูรับคําปรึกษาและผูรับคําปรึกษากําลังคิดวาจะตอบปญหานั้นหรือไมหรือจะตอบ
2) สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทุกดานของผูรับคําปรึกษา ปญหานั้นอยางไรดีการใชกลวิธีการเงียบเพื่อคอยฟงคําตอบเปนการกระตุนใหผูรับคําปรึกษาตองแสดง
3) แสดงความรูสึกตอปญหาของผูรับคําปรึกษาอยางเหมาะสม ความคิดเห็นออกมาแตขณะเดียวกันก็อาจสรางความอึดอัดใจแกผูใหคําปรึกษาที่ขาดประสบการณเมื่อ
4) แสดงความรูสึกเห็นอกเห็นใจผูอื่น ผูรับคําปรึกษาไมพูดผูใหคําปรึกษาจึงมักจะพูดเสียเองซึ่งทําใหความคิดของผูรับคําปรึกษาหยุดชะงักเมื่อ
5) สามารถสื่อความคิดเห็นของตนไดอยางชัดเจนไมคลุมเครือ ผูรับคําปรึกษาเงียบผูใหคําปรึกษาควรจะแสดงก็เพียงแตทาทีของความสนใจและใหผูรับคําปรึกษาทราบ
6) มีทัศนคติเชิงบวก เปนมิตร ใหความสนใจและเขาใจผูอื่น วาเราตั้งใจฟงเรื่องราวอยูซึ่งการเงียบอาจกินเวลานานถึง 2-3 นาทีแตถาเห็นวาผูรับคําปรึกษานิ่งเงียบ
7) ยอมรับและเคารพในความเปนบุคคลของผูอื่น นานเกินไปก็อาจจะพูดขึ้นวา “บางครั้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเรานั้นมันยากที่จะบรรยายออกมาเปน
8) มีความเปนตัวของตัวเอง คําพูด” เปนตน
9) ไวตอความรูสึกของผูอื่น 5) เทคนิคการทบทวนประโยคหมายถึงการพูดซ้ําประโยคที่ผูรับคําปรึกษาพูดมาแตใช
10) ไมใชประสบการณเดิมของตนมาตัดสินผูอื่น ถอยคํานอยลงขณะเดียวกันก็ยังคงความหมายเดิมอยู จุดประสงคของการทบทวนประโยคก็เพื่อบอกให
ผูรับคําปรึกษาเขาใจถึงประเด็นสําคัญในเรื่องที่ตนกําลังพูดอยูและทราบวาผูใหคําปรึกษาเขาใจเรื่องราว
เทคนิคในการใหคําปรึกษาสามารถทําใหการใหคําปรึกษาบรรลุถึงเปาหมายและ ที่ผูรับคําปรึกษาพูดมาและยังคงติดตามรับฟงเรื่องราวของผูรับคําปรึกษาอยู
เสริมสราง ทําใหเกิดความเขาใจอันดีระหวางผูใหคําปรึกษาและผูรับคําปรึกษา ซึ่งแสดงถึงกระบวนการ 6) เทคนิคการสรางความกระจางเปนเทคนิคที่ผูใหคําปรึกษาพยายามสะทอนความคิด
ใหคําปรึกษาที่มีประสิทธิภาพ การทําความเขาใจและฝกฝนเทคนิคเหลานี้จึงเปนสิ่งสําคัญสําหรับ ของผูรับคําปรึกษาโดยการใชคําพูดของผูใหคําปรึกษาเองจากขอความหรือขอมูลที่ผูรับคําปรึกษาใหเพื่อ
ผูใหคําปรึกษา สรุปเปนแนวทางไดดังนี้ ตรวจสอบวาสิ่งที่ผูใหคําปรึกษาเขาใจนั้นถูกตองตรงกับผูรับคําปรึกษาหรือไม ซึ่งการสรุปเรื่องราวหรือสิ่ง
1) เทคนิคการนําเขาสูการสนทนา หลักการเริ่มตนใหคําปรึกษาจําเปนตองอาศัยทักษะ ที่สังเกตไดอาจทําใหผูรับคําปรึกษาเกิดความกระจางแจงและเขาใจประเด็นปญหาที่แทจริงได
ในการนําหรือเริ่มสนทนาในระยะแรกทั้งสองฝายอาจจะยังมีความรูสึกใหมตอกันซึ่งผูใหคําปรึกษาควร 7) เทคนิคการสะทอนความรูสึกเปนการนําเอาขอความและคําพูดของผูรับคําปรึกษา
สรางบรรยากาศของการเริ่มตนการใหคําปรึกษาใหอบอุนและเปนกันเองในกระบวนการของการให ตีความหมายและพูดออกมาในเชิงของความรูสึกที่แฝงอยูในเนื้อหานั้นโดยผูใหคําปรึกษาอาจถอด
คําปรึกษาโดยทั่วไปนั้นผูใหคําปรึกษาจะใหผูรับคําปรึกษาเปนผูเริ่มโดยบอกถึงสาเหตุที่มาพบแตถา ขอความจากคําพูดนั้นใหมโดยพยายามเนนความรูสึกของผูรับคําปรึกษามากกวาเนื้อหาของคําพูดซึ่งจะ
ผูรับคําปรึกษารูสึกตื่นเตนหรือลําบากใจในการแสดงออกผูใหคําปรึกษาก็จําเปนตองพยายามหาทางชวย ชวยใหผูรับคําปรึกษาไดรับรูและเขาใจถึงความรูสึกที่แทจริงของตนเองเมื่อผูรับคําปรึกษาเขาใจถึง
ใหผูรับคําปรึกษาเกิดความสบายใจโดยใชประโยคเหลานี้เปนการเริ่มตนเชน “มีอะไรพอจะบอกใหผม ความรูสึกของตนเองแลวจะชวยใหการใหคําปรึกษาดําเนินไปอยางราบรื่นและตรงเปาหมาย
ทราบไดไหมครับ” เปนตน 8) เทคนิคการสรุปในระหวางการใหคําปรึกษาผูใหคําปรึกษากับผูรับคําปรึกษา
2) เทคนิคการตั้งคําถามผูใหคําปรึกษาสามารถใชคําถามเพื่อใหไดขอมูลในดานตางๆ อาจสนทนากันหลายเรื่องพรอมกันและอาจเกิดความสับสนดังนั้นการใชทักษะในการสรุปก็คือ
เพิ่มเติมเชนภูมิหลังความสนใจจุดดีจุดเดนของผูรับคําปรึกษาเพื่อที่จะชวยผูรับคําปรึกษาไดมีโอกาส การพยายามรวบรวมสิ่งที่พูดการไปแลวนั้นใหเปนประโยคเดียวโดยครอบคลุมเนื้อหาตางๆ ที่ไดสนทนา
เขาใจผูรับคําปรึกษาและปญหาที่ผูรับคําปรึกษากําลังเผชิญอยูไดอยางดียิ่งขึ้นคําถามที่ดีจะเปนคําถาม กันมาในแตละตอนของการสนทนา ในการสรุปจําเปนตองอาศัยความจําในเรื่องราวตางๆ ที่พูดคุยกันมา
ปลายเปดที่เปนการชวยใหผูรับคําปรึกษาไดเขาใจถึงปญหาตลอดจนถึงอารมณและความรูสึกของตนเอง เปนอยางดี สิ่งที่พึงระลึกถึงในการสรุปก็คือ ไมควรนําความคิดใหมเพิ่มเติมเขามาในการสรุปแตควรเปน
3) เทคนิคการซักถามเปนการปอนคําถามตรงๆหลายๆคําถามติดตอกันเพื่อดึงเอา การรวบรวมสิ่งตางๆ ที่ไดพูดคุยกันมาแลว
คําตอบจากผูรับคําปรึกษาออกมาวิธีการซักถามอาจใชไดผลเมื่อผูรับคําปรึกษาพยายามหลีกเลี่ยงการที่ 9) เทคนิคการตีความในระหวางการใหคําปรึกษาผูรับคําปรึกษาอาจกลาวถึงเรื่องราว
จะกลาวถึงจุดสําคัญของตนเองหรือของปญหาอยูตลอดเวลาเทคนิคนี้ผูใหคําปรึกษาไมควรใชบอยนัก บางสิ่งที่มีความหมายสืบเนื่องมาจากเรื่องราวที่เคยกลาวมาแลวและในขณะนั้นผูใหคําปรึกษาอาจ
เพราะเปนการเรงกระบวนการในการใหคําปรึกษาการใชการซักถามจะทําใหไดคําตอบอยางรวดเร็วแต มองเห็นความสัมพันธกับพฤติกรรมเดิมจึงใชวิธีตีความเพื่อใหผูรับคําปรึกษาเห็นความเกี่ยวของของ
ก็อาจทําใหผูรับคําปรึกษาตอตานหรืออาจไมทันเตรียมตัวเตรียมใจจนขาดความพรอมที่จะพูดถึงปญหา ปญหาและยอมรับในปญหานั้นหรืออาจกลาวไดอีกนัยหนึ่งวาการตีความเปนกระบวนการที่ผูให
คู่มือปฏิบัติงาน
การด�าเนินงานตามมาตรการพิเศษ ๔๙