Page 52 - Q2-ManualConsult ภ.2
P. 52
41 42
คําปรึกษาอธิบายความหมายของเหตุการณใหผูรับคําปรึกษาไดเขาใจปญหาของตนเองในดานอื่นที่อาจ ของผูรับคําปรึกษาในขณะนั้นพรอมทั้งรวมรับอารมณของผูรับคําปรึกษาไปดวยในขณะที่ผูใหคําปรึกษา
ยังไมไดมองมากอนซึ่งตางจากการทบทวนประโยค โดยการตีความหมายนั้นผูใหคําปรึกษาไดเสนอ รับฟงผูรับคําปรึกษาอยูนั้นผูใหคําปรึกษาจําเปนตองแสดงความเอาใจใสตอผูรับคําปรึกษาซึ่งอาจจะ
กรอบแนวคิดใหมใหผูรับคําปรึกษาพิจารณาปญหาของตนเองการตีความจะชวยผูรับคําปรึกษาเขาใจถึง แสดงออกไดโดยการสบตาหรือการพยักหนาเล็กนอยในขณะที่รับฟงหรือลักษณะทาทางในการนั่งที่โนม
ปญหาตนเองไดกวางขวางมากยิ่งขึ้น ไปขางหนาพอสมควร ซึ่งทาทีของผูใหคําปรึกษาก็เปนสิ่งสําคัญประการหนึ่งที่แสดงออกถึงความเอาใจใส
10) การชี้แนะเปนเทคนิคในการเสนอความคิดหรือวิธีการในการแกไขปญหา ตอผูรับคําปรึกษาในขณะนั้นอีกดวย
แบบออมๆ เพื่อจูงใจใหผูรับคําปรึกษาคิดแกไขปญหาหรือรับเอาวิธีนั้นไวใชเปนแนวทางในการแกปญหา นอกเหนือจากเทคนิคเหลานี้แลวในขณะที่การใหคําปรึกษากําลังดําเนินอยูผูใหคําปรึกษา
ตอไป ผูใหคําปรึกษาควรระวังในการใชเทคนิคการชี้แนะเนื่องจากผูรับคําปรึกษามักคาดหวังใหผูให ยังจําเปนตองตระหนักถึงองคประกอบรวมบางอยางของกลวิธีการใหคําปรึกษา
คําปรึกษาเสนอแนะอยูแลวผูใหคําปรึกษาจึงอาจใชเทคนิคนี้บอยเกินไปซึ่งความจริงแลวการใชเทคนิคนี้ องคประกอบรวมของการใหคําปรึกษามีดังนี้
บอยเกินไปก็อาจทําใหผูรับคําปรึกษาไมไดใชความคิดแบบหาแนวทางแกไขปญหาดวยตนเองเทาที่ควร 1) สัมพันธภาพความสัมพันธเปนพื้นฐานสําคัญในการวางโครงสรางของการให
ผูใหคําปรึกษาจึงควรนําเทคนิคมาใชเมื่อยามจําเปนเทานั้น คําปรึกษาความพยายามที่จะสรางสัมพันธภาพคือการแสดงออกถึงความตั้งใจจริงที่จะชวยเหลือผูรับ
11) การแสดงความเห็นชอบ มักเปนวิธีหนึ่งที่จะใหกําลังใจแกผูรับคําปรึกษาที่จะ คําปรึกษาดังนั้นผูใหคําปรึกษาจําเปนตองมีสิ่งตางๆ ดังนี้ คือ มีความปรารถนาดีตอผูอื่นเปนพื้นฐาน
ดําเนินวิธีการแกไขปญหาตอไปผูใหคําปรึกษาสามารถใชคําพูดหรือกิริยาทาทางที่จะแสดงให มีการยอมรับและใหเกียรติผูอื่นในฐานะของบุคคล มีความสามารถในการสื่อขอความกลาวคือผูให
ผูรับคําปรึกษาไดรับรูวาผูใหคําปรึกษาเห็นชอบดวยกับวิธีการของผูรับคําปรึกษา คําปรึกษาจะตองเปนทั้งผูพูดและผูฟงที่ดีรูจังหวะขั้นตอนวาเวลาใด ควรเปนผูพูดเวลาใดควรเปนผูฟง
12) การใหความมั่นใจ เมื่อผูรับคําปรึกษาแสดงทัศนะหรือโครงการตอผูใหคําปรึกษา และในขณะที่เปนผูฟงนั้นสามารถเขาใจทั้งเรื่องราวและอารมณของคูสนทนา และใหความชวยเหลือแก
และผูใหคําปรึกษามั่นใจวาทัศนะหรือโครงการนั้นถูกตองและไดผลดีจริงๆ ผูใหคําปรึกษาจะแสดงออก บุคคลอื่นทันทีเมื่อมีโอกาสเทาที่สามารถจะกระทําได
เพื่อใหความมั่นใจแกผูรับคําปรึกษานอกจากนั้นผูใหคําปรึกษาก็อาจทําใหเกิดความมั่นใจเปนการให สัมพันธภาพที่ดีระหวางผูใหคําปรึกษากับผูรับคําปรึกษาซึ่งในกระบวนการใหคําปรึกษา
กําลังใจแกผูรับคําปรึกษาในกิจกรรมตางๆที่ตองทําเพื่อลดความเครียดความกังวลใจ เรียกวาสายสัมพันธจะเปนสิ่งที่ชวยใหการใหคําปรึกษาดําเนินไปอยางมีประสิทธิภาพและผูใหคําปรึกษา
13) การเผชิญหนาเปนกลวิธีหนึ่งที่ผูใหคําปรึกษาจะบอกถึงความรูสึกและความคิดเห็น จะตองรักษาสายสัมพันธนี้ใหคงอยูตลอดในระหวางการใหคําปรึกษาอีกดวย
ของตนเองตอผูรับคําปรึกษาอยางตรงไปตรงมาเพื่อชวยผูรับคําปรึกษาใหเขาใจถึงความรูสึกนึกคิด 2) ความยืดหยุนนับจากที่ผูใหคําปรึกษาที่เปนฝายที่มีบทบาทมากไปจนถึงผูให
ถูกตองตรงตามความเปนจริงมากขึ้นสําหรับผูใหคําปรึกษาที่มีประสบการณนอยควรระมัดระวังตอการใช คําปรึกษาที่มีบทบาทนอยหรือไมคอยพูดจากการใหคําปรึกษาแบบนําทางไปจนถึงแบบไมนําทางวัดจาก
กลวิธีการเผชิญหนาเพราะอาจทําใหทั้งสองฝายเกิดอารมณและระคายเคืองตอความสุขขึ้นมาซึ่งจะ ดานความคิดความอานไปจนถึงดานอารมณและพฤติกรรมคุณสมบัติของผูใหคําปรึกษาที่มีประสิทธิภาพ
กระเทือนถึงสายสัมพันธอันดีที่เคยมีตอกันเมื่อแรกเริ่มการใหคําปรึกษา คือความสามารถที่จะใหคําปรึกษาและสรางความสัมพันธตามวิธีการที่เหมาะสมกับลักษณะของ
14) เทคนิคการทาทายเปนเทคนิคหนึ่งที่จะกระตุนใหผูรับคําปรึกษาตองใชความตั้งใจ ผูรับคําปรึกษาที่แตกตางกันไปไดทุกกรณีทฤษฎีการใหคําปรึกษาทุกทฤษฎีตางก็แนะนําใหมี
มากขึ้นในการแกปญหาแตในเวลาเดียวกันวิธีดังกลาวก็อาจสรางความกังวลใจแกผูรับคําปรึกษาเพิ่มขึ้น การปรับเปลี่ยนวิธีการใหคําปรึกษาไปตามความเหมาะสมไมมีทฤษฎีใดเลยที่แนะนําใหผูใหคําปรึกษา
ไดการใชเทคนิคนี้นับวาเปนวิธีที่คอนขางเสี่ยงเพราะเปนการแสดงการไมยอมรับหรือการไมเห็นดวยกับ พยายามหาทางเพื่อทําใหผูรับคําปรึกษาคิดแบบเดียวกันแกปญหาแบบเดียวกันเปนพิมพเดียวกัน
ความคิดของผูรับคําปรึกษาโดยตรง ซึ่งอาจมองวาเปนการดูถูกอยางสุภาพผูใหคําปรึกษาตองมั่นใจใน ทุกทฤษฎีจะพิจารณาคนดวยความยืดหยุนในการใชหลักการของทฤษฎีนั้นๆอยางมีเหตุผล
สัมพันธภาพระหวางผูรับคําปรึกษาและผูใหคําปรึกษาวาอยูในระดับที่มั่นคงพอสมควร 3) การสื่อความหมายหรือการสื่อขอความผูใหคําปรึกษาและผูรับคําปรึกษาจะตองมี
15) การแสดงการไมยอมรับ เปนกลวิธีที่ผูใหคําปรึกษาจะใชเมื่อเห็นวาผูรับคําปรึกษา การติดตอสื่อความหมายซึ่งกันและกันดวยการใชคําพูดวัดหรือการใชกิริยาทาทางสีหนาแววตาก็ไดความ
แสดงความคิดเห็นที่ผิดไปจากความเปนจริงหรือแสดงออกถึงความคิดที่เพอฝนมากเกินไปผูใหคําปรึกษา ไวในการที่จะรับรูและเขาใจถึงปญหาความไวตอการรับรูถึงความรูสึกที่เกิดขึ้นกับตนเองและของ
จะแสดงการไมยอมรับเพื่อดึงใหผูรับคําปรึกษาเปลี่ยนแปลงแนวคิดใหม สําหรับผูใหคําปรึกษาที่มี ผูรับคําปรึกษาตลอดจนการพิจารณาสิ่งตางๆ ที่เกิดขึ้นดวยความยุติธรรมพอสมควรจะชวยใหการให
ประสบการณนอยตองใชเทคนิคการไมยอมรับนี้ดวยความระมัดระวังเพราะอาจทําใหผูรับคําปรึกษา คําปรึกษาดําเนินไปอยางดี
ไมพอใจและรูสึกตอตานผูใหคําปรึกษาไดเมื่อผูรับคําปรึกษารูสึกวาผูใหคําปรึกษาไมยอมรับเขากอน 4) การจูงใจทฤษฎีการใหคําปรึกษาทุกทฤษฎีมีความเห็นตรงกันวาผูรับคําปรึกษาที่
16) เทคนิคการฟงนับวาเปนสิ่งจําเปนสําหรับผูใหคําปรึกษาทุกคน การฟงเปนศิลปะที่ ตองการมาขอรับการปรึกษายอมจะใหความรวมมือและไดประโยชนมากกวาผูที่ไมมีความตองการดังนั้น
ตองอาศัยความอดทนและตองใชสมาธิเปนอยางมากเพราะในระหวางการใหคําปรึกษานั้นผูใหคําปรึกษา ถาเปนไปไดจึงควรมีการสรางแรงจูงใจใหกับผูรับคําปรึกษาทุกคนโดยเฉพาะกับผูที่ไมตองการรับ
มิใชจะรับฟงแตเพียงเรื่องราวที่ผูรับคําปรึกษาพูดออกมาเทานั้นแตจะตองทําความเขาใจถึงความรูสึก คําปรึกษาเมื่อผูรับคําปรึกษานั้นเกิดปญหาก็อาจจะตองใชความพยายามเปนพิเศษการจูงใจสําหรับ
คู่มือปฏิบัติงาน
การด�าเนินงานตามมาตรการพิเศษ ๕๑