Page 139 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 139

ี
                      �
                     คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๔๘/๒๕๕๓
                                                         ี
                                             ี
                                   �
            คดีท่ครูโรงเรียนเอกชนย่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ถูก
                               ื
                ี
                   ี
            ฟ้องคดีท่ 1 และมูลนิธิเจ้าของโรงเรียน ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 ว่า ผู้ถูกฟ้องคด  ี
                                                     ี
            ท่ 2 ทาสัญญาจ้างผู้ฟ้องคดีให้เป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ในสังกัด ต่อมา
                  �
              ี
                       ี
            ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 เลิกจ้างผู้ฟ้องคดีโดยจ่ายค่าชดเชย แต่มีการแจ้งทบทวน
            เป็นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย คณะกรรมการคุ้มครองการทางานมีมต ิ
                                                           �
                                                          �
            ว่าผู้ฟ้องคดีมีสิทธิได้รับค่าชดเชย ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 อุทธรณ์คาส่งดังกล่าว
                                                            ั
                                                ี
                       ี
            ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 1 พิจารณาอุทธรณ์แล้วเห็นว่า การบอกเลิกจ้างโดยไม่จ่าย
                                               �
            ค่าชดเชยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนคาวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูก
                                                ี
                             ี
            ฟ้องคดีท่ 1 ในส่วนท่วินิจฉัยว่า ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 มีหนังสือบอกเลิกจ้าง
                   ี
            ผู้ฟ้องคดีถูกต้องตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการคุ้มครอง
            การทางานของครูใหญ่และครูโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2542 เห็นว่า
                 �
                                                          ึ
            มูลความแห่งคดีสืบเน่องมาจากผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 ซ่งเป็นเอกชน
                                                       ี
                            ื
                                 ี
            ด้วยกัน โดยผู้ถูกฟ้องคดีท่ 2 ตกลงรับผู้ฟ้องคดีเข้าทางานเป็นครูใหญ่
                                                      �
            และจ่ายค่าจ้างเป็นเงินเดือนให้ผู้ฟ้องคดีตลอดเวลาท่ทางาน นิติสัมพันธ์
                                                      �
                                                     ี
                                     ี
            ระหว่างผ้ฟ้องคดกับผู้ถกฟ้องคดท่ 2 จึงมีลกษณะเป็นสัญญาจ้างแรงงาน
                              ู
                    ู
                                             ั
                                      ี
                         ี
            ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 และเป็นกรณีท   ่ ี
                          �
                                               ี
            ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คาวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีท่ 1 อ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 1
                                                                 ี
                                               ึ
            วนิจฉยไม่ถกต้องตามระเบียบกระทรวงศกษาธิการ โดยระเบยบ
             ิ
                      ู
                 ั
                                                                ี
                                                                 ื
                            ื
                      �
            ข้อดังกล่าวกาหนดเร่องการเลิกสัญญาการเป็นครูหรือการเลิกจ้าง และเร่อง
                                ี
            การจ่ายค่าชดเชยแก่ครูท่ผู้รับใบอนุญาตเลิกสัญญาเป็นครู ถือได้ว่าเป็น
                                                       ี
                                                                 ี
                                              ึ
            กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานฉบับหน่ง และการท่ผู้ถูกฟ้องคดีท่ 1
             ึ
                 �
            ซ่งมีอานาจวินิจฉัยอุทธรณ์ตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียน
            เอกชน พ.ศ. 2525 ได้วินิจฉัยกรณีพิพาทระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้อง
       128  สรุปแนว   ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
                         ี
                                                      ั
                   และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
                   ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
                   (พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)
   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144