Page 14 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ

´ØžÒË

ความตกลงทั่วไปวาดวยการคาและภาษีศุลกากร GATT ซึ่งเราเปนสมาชิกตั้งแตเปน GATT

การผูกพันตัวเองกับองคกรตางๆ มีผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลาในประเทศของเรา
ไมวาในเรื่องกฎบัตร กฎหมาย การปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม วิธีคิด ของเจาพนักงาน

ของรัฐหรือตัวแทนของรัฐซึ่งตุลาการก็เปนสวนหนึ่งของกระบวนการเชนวานี้

ฝายตุลาการของไทย ศาลไดรับการปฏิรูปโดยกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีการ

เปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญในป ๒๔๓๕ ซึ่งศาลสามารถปฏิบัติหนาที่ไดเทียบกับมาตรฐาน

ของนานาประเทศ และเปนสถาบันเดียวที่ไมมีผูใดแทรกแซงไมวาสมัยใด อํานาจตุลาการ
มีความตอเนื่องยาวนานที่สุด สังคมใหความเคารพไววางใจมากกวาสองอํานาจอื่น วาจะปฏิบัติงาน

ดวยความบริสุทธิ์ และคําวินิจฉัยก็เปนที่ยอมรับ มีการออกพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม
พ.ศ. ๒๔๘๕ ศาลฎีกาตัดสินวาพระราชบัญญัตินี้เปนโมฆะ ขัดรัฐธรรมนูญเพราะวามีผลยอนหลัง

ทําใหสถานะของศาลขึ้นสูงเพราะไมกลัวสิ่งใด ไมมีคนตําหนิวาไปชวยฝายแพ ไมกลัววาฝายชนะ

จะเลนงาน ตั้งแตนั้นมาเมื่อศาลตัดสินอยางไรก็เปนอยางนั้น เมื่อเร็วๆ นี้มีคนฟองคณะปฏิวัติ
วาไมใชองคอธิปตยก็เถียงกัน แตเมื่อศาลวินิจฉัยชี้ขาดวาการทํารัฐประหารเมื่อทําสําเร็จแลว

หัวหนาคณะเปนองคอธิปตย ตราบใดที่ยังไมประกาศใชรัฐธรรมนูญชั่วคราวเมื่อมีคําวินิจฉัย
เชนวานั้นแลวก็จบ หลายเรื่องแมมีความเห็นคัดคานไมตรงกับคําวินิจฉัยของศาล โดยเฉพาะ

เรื่องที่ถูกวิพากษวิจารณอยูเสมอคือเรื่องการใชกฎหมายยอนหลังแมวาเมื่อศาลวินิจฉัย

มาแลวเปนอันยุติก็จริงแตขอใหศาลตระหนักตองใชเปนกรณีพิเศษจริงๆ มิฉะนั้นความเชื่อมั่น
วาศาลเปนที่พึ่งอันสุดทายของประชาชนก็จะคลอนแคลน การที่ศาลสามารถดํารงฐานะ

เชนวานี้ไมวาสมัยใดและไมมีผูใดที่จะคิดหรือกระทําเปนอยางอื่น เพราะทุกคนเชื่อวาศาล
ไมไปยุงเกี่ยวกับการเมืองซึ่งควรปลอยเปนหนาที่สภาและคณะรัฐมนตรี เมื่อใดก็ตามที่ศาล

ถูกดึงเขามายุงเกี่ยวกับการเมือง เกียรติภูมิของศาลจะมัวหมองไมวาวินิจฉัยไปทางใด

เพราะสังคมมิไดคาดหวังวาสถาบันศาลหรือตุลาการจะตองมาเกี่ยวของกับการเมือง การที่
รัฐธรรมนูญป ๒๕๔๐ ดึงเอาศาลมาเปนกรรมการหลายอยาง หรือมาเปนกรรมการองคกร

อิสระที่ไมใชศาล ศาลควรปฏิเสธวาอยาใหไปยุงเพราะตองมีการใชดุลยพินิจทางการเมือง
ในการตัดสินใจ การเมืองเปนสิ่งที่ตองใชดุลยพินิจและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สถานที่

และบุคคล มากกวาการวินิจฉัยของฝายตุลาการ ทางนั้นเปลี่ยนมากกวาตามกระแสหรืออารมณ

ของสังคมในขณะนั้นซึ่งอาจออนไหวซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงไปตามปจจัยสิ่งแวดลอมและขอมูล
ที่อาจถูกเสกสรรปนแตงเพื่อผลประโยชนทางการเมืองได ไมเหมือนกฎหมายที่มีความแนนอนกวา

มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๓