Page 194 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 194

´ØÅ¾ÒË





                 นโยบายของรัฐคอนเนกติกัตเลือกเมื่อมีคดีสะเทือนขวัญลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในป ๒๐๐๗
                 แมจะมีกระแสเรียกรองจากสังคมใหแกไขกฎหมาย แตมีนักการเมืองคนหนึ่งที่พยายาม

                 นําเสนอวาปญหาในคดีนั้นเกิดจากกระบวนการตัดสินใจอนุญาตใหพักการลงโทษที่ผิดพลาด
                 เพราะคณะกรรมการพักการลงโทษไมไดรับขอมูลที่ครบถวนจากหนวยงานอื่น หากขอมูล

                 ครบถวนก็ไมมีทางที่ผูกระทําผิดคนนั้นจะไดรับการพักการลงโทษและไปกอคดีที่เปนขาว
                 จึงมีขอเสนอใหปรับปรุงวิธีการทํางานใหมีการเชื่อมโยงขอมูลประวัติการกระทําผิดระหวาง

                 หนวยงาน ซึ่งตอมานําไปสูการจัดทําฐานขอมูลรวมกันระหวางหนวยงานในกระบวนการยุติธรรม


                 บทที่ ๖  ใหนิยามความลมเหลว

                         โครงการ Drug Abuse Resistance Education (DARE) เปนโครงการที่เกาแก

                 โครงการหนึ่งซึ่งเริ่มดําเนินการตั้งแตป ๑๙๘๓ ตอเนื่องจนปจจุบัน ลักษณะการดําเนินการ
                 คือใหเจาหนาที่ตํารวจไปอบรมพิษภัยของยาเสพติดใหแกเยาวชนในโรงเรียนประถม หลังจาก
                 เริ่มโครงการ มีงานวิจัยของนักวิชาการมากกวา ๓๐ ชิ้น ที่สรุปผลวาโครงการนี้ลมเหลว

                 เพราะไมสามารถลดการใชยาเสพติดในหมูนักเรียนได ในบทนี้ผูเขียนจึงตั้งคําถามวาเหตุใด
                 โครงการที่มีการประเมินผลวาลมเหลวจึงดําเนินการอยางตอเนื่องทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา

                 มากกวา ๓๐ ป ทั้งที่ผูปฏิบัติงานตางก็ทราบดีถึงผลการวิจัยประเมินผลดังกลาว คําตอบที่ผูเขียน
                 เสนอคืองานวิจัยประเมินผลนั้นใหนํ้าหนักเฉพาะเปาหมายที่เปนทางการของโครงการ
                 ในการลดการใชยาเสพติด แตไมไดมองประโยชนอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เชน ความสัมพันธที่ดีขึ้น

                 ระหวางเจาหนาที่ตํารวจกับนักเรียน โรงเรียนและชุมชน ตลอดจนผลดีของโครงการตอชีวิต
                 ของเด็กแตละคน ดังนั้น งานวิจัยประเมินผลจึงมีขอจํากัด เพราะความจริงคือโครงการ

                 สวนใหญจะประสบความสําเร็จกับผูเขารวมบางคนและในบางชวงเวลาเทานั้น ความไมเขาใจกัน
                 ระหวางนักวิชาการและผูปฏิบัติ (research - practice divide) จึงเปนเรื่องที่ตองใหความสําคัญ


                 บทสรุป


                         ผูเขียนสรุปวาไมมีเคล็ดลับหรือพิมพเขียวความสําเร็จของการปฏิรูปกระบวนการ
                 ยุติธรรมทางอาญา ดังนั้น หากมีใครก็ตามอางวารูเคล็ดลับความสําเร็จ เราควรตั้งคําถาม

                 และไมปกใจเชื่อ โดยผูเขียนไดเสนอความผิดพลาดและบทเรียน ๘ ประการของการปฏิรูป
                 กระบวนการยุติธรรมทางอาญาในสหรัฐอเมริกา  ดังนี้

                         ความผิดพลาดที่ ๑  ไมทบทวนตนเอง






                 มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑                                                       ๑๘๓
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199