Page 110 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 110
ดุลพาห
คำาชี้ขาดนั้น เป็นอำานาจของศาลแต่ไม่ได้เป็นบทบังคับว่า ศาลจะต้องปฏิเสธไม่บังคับตาม
คำาชี้ขาด ถ้าการบังคับตามคำาชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
อันดีของประชาชน (มาตรา ๔๔ พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ)
๓. ทัศนคติของศ�ลกับ “นโยบ�ยส�ธ�รณะ” หรือ “คว�มสงบเรียบร้อย” ในปัจจุบัน
คำาพิพากษาของศาลที่ปฏิเสธไม่ยอมรับและบังคับตามคำาชี้ขาดด้วยเหตุว่าขัดกับ
ความสงบเรียบร้อย หรือ public policy นี้ มีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ จนหลายๆ คนเริ่มจะเกิด
ความชาชิน ตัวอย่างแรกที่เป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อยในต่างประเทศก็คือ กรณีของ
ประเทศกาตาร์ ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นของกาตาร์ปฏิเสธไม่บังคับคำาชี้ขาด
และมีคำาสั่งเพิกถอนคำาชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำาขึ้นภายใต้ข้อบังคับของ ICC ที่กรุงปารีส
โดยมีคำาสั่งทั้งไม่บังคับตามคำาชี้ขาดและเพิกถอนคำาชี้ขาดด้วยในคราวเดียวกัน ด้วยเหตุผลว่า
“คำาชี้ขาดไม่ได้ทำาขึ้นในนามของเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์” หรือที่เรียกว่า “เอมีร์แห่งกาตาร์”
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ศาลอุทธรณ์ของกาตาร์ได้ยืนตามคำาพิพากษาดังกล่าว ซึ่งส่งผล
กระทบต่อคำาชี้ขาดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายกาตาร์ทั้งหมด ไม่ว่าสถานที่การอนุญาโตตุลาการ
จะเป็นที่ใด โดยที่มาของคำาพิพากษาดังกล่าวคือ มาตรา ๖๙ ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่งของกาตาร์ซึ่งกำาหนดไว้ว่า การทำาคำาพิพากษาและการบังคับตามคำาพิพากษา
จะต้องทำาในนามของผู้มีอำานาจสูงสุดของประเทศ กล่าวคือ เอมีร์แห่งกาตาร์ มาตราดังกล่าว
เป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ (หรือเทียบได้กับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
อันดีของประชาชนตามกฎหมายไทย) ดังนั้น หากมีการฝ่าฝืน คำาพิพากษาที่เกี่ยวข้องจะตก
เป็นโมฆะและบังคับไม่ได้ ศาลในคดีนี้จึงได้ตีความโดยอาศัยบทบัญญัติดังกล่าวว่า คำาชี้ขาด
ของอนุญาโตตุลาการก็จะต้องสอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าวด้วย หากคำาชี้ขาดไม่ได้ทำาขึ้น
ในนามของเอมีร์แห่งกาตาร์ก็จะบังคับไม่ได้
คำาพิพากษาของศาลกาตาร์ดังกล่าวทำาให้เกิดข้อวิตกกังวลว่า ศาลกาตาร์ตีความ
อนุสัญญานิวยอร์กกว้างเกินไป เพราะวัตถุประสงค์ของอนุสัญญานิวยอร์กนั้นก็เพื่อให้การ
บังคับตามคำาชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำาขึ้นไม่ว่าที่ใดในโลกเป็นไปได้โดยสะดวก
ดังนั้น “นโยบายสาธารณะ” ซึ่งเป็นเกณฑ์หนึ่งในการปฏิเสธไม่บังคับตามคำาชี้ขาดของ
อนุญาโตตุลาการต่างประเทศจึงจะต้องตีความอย่างแคบ นอกจากนี้ เนื่องจากคำาชี้ขาด
ในคดีดังกล่าวทำาขึ้นในกรุงปารีส ดังนั้น ศาลฝรั่งเศสจึงเป็นศาลที่มีอำานาจในการพิจารณา
เพิกถอนคำาชี้ขาด
พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑ 99