Page 114 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 114
ดุลพาห
หลัก “รัฐไม่ต้องจ่ายในสิ่งที่รัฐไม่ได้เป็นหนี้” :
ความหมาย และข้อจำากัดในการนำามาปรับใช้ในคดีปกครอง
เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
ดร. บุญอนันต์ วรรณพานิชย์*
คำ�นำ�
ในสัญญาทางปกครอง ซึ่งมีคู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐนั้น
ในหลายกรณีมีข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาว่า เมื่อมีข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาเกิดขึ้น ให้มี
การชี้ขาดโดยอนุญาโตตุลาการ และหลังจากที่ได้มีการนำาเอาข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการชี้ขาด
โดยอนุญาโตตุลาการ จนกระทั่งคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำาชี้ขาดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำาชี้ขาดให้รัฐเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชดใช้เงินให้แก่คู่สัญญา
ฝ่ายเอกชนก็มักจะเกิดประเด็นเป็นที่สนใจของสังคมว่าทำ�ไมรัฐถึงต้องรับผิดเช่นนั้น? ก�รให้
รัฐต้องรับผิดชดใช้เงินเป็นสิ่งที่ถูกต้องรอบคอบแล้วหรือไม่ในเมื่อเงินที่รัฐต้องนำ�ม�จ่�ยล้วน
เป็นเงินงบประม�ณของแผ่นดินซึ่งม�จ�กภ�ษีอ�กรที่เก็บจ�กประช�ชน? รัฐไปทำ�สัญญ�ให้
เกิดคว�มเสียเปรียบได้อย่�งไร? ทำ�ไมรัฐจึงต้องเสีย “ค่�โง่”? ฯลฯ บางกรณีเมื่อศาลพิจารณา
แล้วไม่ปรากฏเหตุตามกฎหมายที่กำาหนดให้ศาลเพิกถอนคำาชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ
หรือปฏิเสธไม่บังคับตามคำาชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการได้ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป
ด้วยว่าศ�ลยินยอมให้รัฐต้องรับผิดจ่�ยเงินเช่นนั้นไปได้อย่�งไร?
ปัญหาสำาคัญประการหนึ่งในเรื่องนี้ ได้แก่ ปัญหาขอบเขตการพิจารณาของศาล
ในการทบทวนดุลพินิจชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในเรื่อง “จำานวนเงินที่ให้รัฐรับผิดชดใช้”
ซึ่งกรณีที่ศาลพิจารณาจำานวนเงินที่ให้รัฐต้องรับผิด โดยนำาเอาดุลพินิจของศาลไปเปรียบเทียบ
* ตุลาการศาลปกครองสูงสุด น.บ., น.ม. (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), น.บ.ท., ปริญญาบัตรชั้นสูงทางกฎหมาย
มหาชนและปริญญาเอกทางกฎหมายมหาชน (เกียรตินิยมดีมาก) มหาวิทยาลัยตูลูส ๑ แคปปิโตล ประเทศ
ฝรั่งเศส.
พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑ 103