Page 112 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 112

ดุลพาห




                        จากคำาสั่งศาลสูงของประเทศอังกฤษดังกล่าว จึงเป็นที่แน่ชัดว่าคู่พิพาทที่ต้องการ
               บังคับตามคำาชี้ขาดในหลายประเทศตามอนุสัญญานิวยอร์กไม่สามารถคิดเหมาเอาเองได้ว่า

               จะสามารถทำาได้ในแบบเดียวกันในทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีประเด็นเกี่ยวข้อง

               กับนโยบายสาธารณะ และเป็นการตอกยำ้าว่านโยบายสาธารณะหรือเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบ
               เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น เป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละประเทศและอาจ

               จะเป็นการยากที่จะควบคุมหรือกำาหนดรูปแบบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

                        ในส่วนของประเทศไทยเรานั้นก็เช่นกัน “ความสงบเรียบร้อย” เป็นหลักการที่ค่อนข้าง

               ลื่นไหล จับให้มั่นได้ยากและทุกครั้งที่ฝ่ายเอกชนชนะคดีอนุญาโตตุลาการกับภาครัฐ
               ในประเทศไทย ก็จะต้องมีลุ้นเสมอว่าคำาชี้ขาดจะต้องถูกศาลไทยเพิกถอนเพราะขัดกับความ

               สงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ ตัวอย่างคดีที่ศาลไม่บังคับตามคำาชี้ขาด
               หรือเพิกถอนคำาชี้ขาดที่ทำาขึ้นในไทยด้วยเหตุนี้มีให้เห็นอยู่มากมาย บางคดีก็สร้างความฉงนอยู่

               ไม่น้อย เช่น กรณีเมื่อปลายปี ๒๕๖๐ ที่ผ่านมาที่ศาลปกครองจังหวัดอุบลราชธานีพิพากษา

               เพิกถอนคำาชี้ขาดอนุญาโตตุลาการที่ให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีชำาระเงินค่าหอพักนักศึกษา
               กว่าสองร้อยล้านบาทให้แก่บริษัทกำาจรกิจก่อสร้าง โดยให้เหตุผลว่าบริษัทดังกล่าวได้มีการ

               โอนสิทธิเรียกร้องให้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาไปแล้ว บริษัทกำาจรกิจก่อสร้างจึงไม่มีสิทธิเรียก
               ให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีชำาระหนี้อีกต่อไป คำาชี้ขาดอนุญาโตตุลาการจึงเป็นการทำาให้

               มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีต้องรับผิดในมูลหนี้ที่ได้โอนไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่สัญญาแล้ว
               อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๙๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งๆ ที่ไม่มี

               เหตุตามกฎหมาย จึงกระทบต่อสิทธิในทรัพย์สิน และย่อมเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย
               และศีลธรรมอันดีของประชาชน เข้าเงื่อนไขที่ศาลจะมีคำาสั่งเพิกถอนได้ตามพระราชบัญญัติ

               อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๔๐ วรรคสาม (๒) (ข)


                        ในความเห็นของผู้เขียน กรณีข้างต้นน่าจะเป็นกรณีที่อนุญาโตตุลาการตัดสิน
               ไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย แต่การตัดสินไม่ชอบด้วยข้อกฎหมายมิได้เป็นเหตุในการเพิกถอน

               คำาชี้ขาด หากข้อกฎหมายนั้นไม่ได้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
               อันดีของประชาชน คำาชี้ขาดที่ไม่เป็นไปตามข้อกฎหมายดังกล่าวจึงไม่ควรจะอยู่ในข่ายที่ศาล

               จะเพิกถอนได้ คำาพิพากษาของศาลปกครองจังหวัดอุบลราชธานี ในกรณีข้างต้นจึงเท่ากับ
               เป็นการวินิจฉัยว่าข้อกฎหมายว่าด้วยหนี้ (กรณีนี้คือ มาตรา ๑๙๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง

               และพาณิชย์) เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน



               พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑                                                     101
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117