Page 141 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 141
ดุลพาห
๖) การบริหารจัดการกระบวนพิจารณา (Management of proceedings) ได้แก่
การพิจารณาคำาขอรับชำาระหนี้ รวมทั้งการโต้แย้งคัดค้าน ลำาดับบุริมสิทธิของมูลหนี้ และการ
แบ่งทรัพย์สิน
๗) ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนพิจารณา (Conclusion of proceedings) ได้แก่
การปลดลูกหนี้จากการล้มละลาย การหลุดพ้นจากหนี้ของลูกหนี้รวมทั้งข้อเรียกร้องที่มีต่อ
ลูกหนี้ การปิดหรือการเลิกกระบวนการชำาระบัญชี และการปิดหรือการเลิกกระบวนการฟื้นฟู
กิจการ
๒. โครงสร้างระบบกฎหมายล้มละลายของประเทศสิงคโปร์
กฎหมายสิงคโปร์เกี่ยวกับกระบวนการล้มละลายไม่ได้รวมอยู่ในกฎหมายฉบับเดียว
โดยบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำาเนินคดีล้มละลายและกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับ
การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ส่วนใหญ่อยู่ใน Companies Act 1967 (revised edition 2006)
ซึ่งใช้ในคดีที่ลูกหนี้เป็นบริษัท (corporate) ซึ่งเรียกว่า Corporate Insolvency และ
Bankruptcy Act 1995 (revised edition 2009) ซึ่งใช้ในคดีที่ลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดา
ซึ่งเรียกว่า Personal Insolvency
ในส่วน Corporate Insolvency นอกจากจะมี Companies Act แล้ว ในการดำาเนิน
กระบวนพิจารณายังต้องพิจารณา Companies (Winding Up) Rules และ Companies
Regulations โดยรูปแบบของกระบวนพิจารณามี ๔ รูปแบบ ได้แก่ ๑) Liquidation หรือ
Winding up ๒) Judicial management ๓) Schemes of arrangement และ ๔)
Receivership
สำาหรับ Personal Insolvency การดำาเนินกระบวนพิจารณายังใช้ Bankruptcy
Rules ด้วย โดยรูปแบบของกระบวนพิจารณามี ๓ รูปแบบ ได้แก่ ๑) Bankruptcy of
individuals ๒) Voluntary arrangements และ ๓) Debt repayment schemes
๒.๑ ที่มาของกฎหมายล้มละลายสิงคโปร์
ระบบ Corporate insolvency มาจากการปรับใช้ Companies Act 1866
ของประเทศอินเดียแก่ประเทศในกลุ่ม the British Straits Settlements (ประเทศที่เป็น
130 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕