Page 163 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 163
ดุลพาห
แต่ในสถานประกอบการด้านพาณิชยกรรมหรือบริการ เช่น กิจการธนาคารการ
ให้บริการที่ประทับใจจึงมีความสำาคัญมาก ดังนั้น การแต่งกายก็ดี ความมีอัธยาศัยไมตรีก็ดี
จึงเป็นเรื่องสำาคัญที่ลูกจ้างผู้ปฏิบัติจะต้องให้ความสำาคัญเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นกฎระเบียบใน
สถานประกอบการที่กล่าวจึงเข้มงวดมากในเรื่องการแต่งกายและความมีอัธยาศัยไมตรีของ
ผู้ให้บริการต่อลูกค้า
บางลักษณะงาน นายจ้างอาจกำาหนดให้ลูกจ้างต้องมีพฤติกรรมผิดหรือขัดแย้งกับ
ความรักความชอบส่วนตัวก็ได้ เช่น ลูกจ้างมีหน้าที่เป็นพนักงานแนะนำาสินค้าเครื่องสำาอาง
(Beauty Advisor) ดังนั้น จึงต้องใช้เครื่องสำาอางอันเป็นผลิตภัณฑ์ของนายจ้าง จะใช้ยี่ห้ออื่น
ไม่ได้ แม้ว่าตนเองในใจลึกๆ อาจจะชอบยี่ห้ออื่นก็ได้
• เขียนอย่างกว้างๆ ให้ครอบคลุมสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยปกติแล้วย่อมเป็นการเหลือวิสัยที่จะให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการจะคาด
การณ์ถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างครบถ้วน ทั้งความเจริญก้าวหน้าทาง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยอัตราเร่งที่รวดเร็วมาก
การเขียนกฎระเบียบข้อบังคับ จึงควรเขียนโดยถ้อยคำากว้างๆ ให้ครอบคลุมถึงกรณี
ต่างๆ ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ใช้คำาว่า “ไม่แสวงหาประโยชน์อันมิชอบโดยอาศัย
ตำาแหน่งหน้าที่ที่ดำารงอยู่” หรือ “ให้ทำางานโดยสุจริตอุทิศ ทุ่มเทตนแก่งานโดยเต็มกำาลัง
ความสามารถ” เป็นต้น
การเขียนก็ควรจะสั้น แจ้งชัด รัดกุม สื่อความหมายที่เราอยากจะสื่อจริงๆ เช่น
หากประสงค์ที่จะให้พนักงานลงเวลาการทำางานเข้า หรือออกงาน ก็ควรเขียนว่า “ให้พนักงาน
บันทึกเวลา เข้า-ออกงานตามที่บริษัทกำาหนด” ซึ่งในภาคปฏิบัติอาจเป็นเรื่องใช้เครื่องตอกบัตร
หรือ Bare Code หรือ Finger Scan ก็ได้แล้วแต่ว่า ณ ขณะนั้นเทคโนโลยีการบันทึกหรือลง
เวลาการเข้าออกงานไปไกลขนาดไหน
• ทบทวนตรวจสอบอยู่เสมอๆ และแก้ไขเมื่อเห็นว่าจำาเป็นต้องแก้ไข
เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป กฎระเบียบซึ่งเวลาหนึ่งเคยใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพ
อาจจะไม่เหมาะสมแก่กาลสมัยก็ได้ เช่น การห้ามพนักงานหญิงสวมกางเกง แต่ให้สวม
ได้เฉพาะกระโปรงนั้นอาจจะไม่เหมาะสำาหรับยุคการทำางานในปัจจุบันที่เร่งรีบต้องการ
152 เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕