Page 259 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 259

ดุลพาห




            ห้ามล้อด้วยความแรงเพื่อพยายามทำาให้รถหยุด แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดระหว่างช่วงเวลาที่
            อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในรถยนต์ตรวจพบนายอังคารที่ข้ามถนนอย่างกะทันหัน

            ในระยะกระชั้นชิดอาจทำาให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทันก่อนถึงตัวนายอังคาร ย่อมจะทำาให้

            นายอังคารได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงขนาดเสียชีวิตได้เช่นกัน หากรถยนต์ที่วิ่งตามหลังมาชน
            ท้ายรถยนต์ของนายจันทร์ด้วยก็อาจทำาให้นายจันทร์ได้รับบาดเจ็บอีก ปฏิกิริยาตอบสนองใหม่

            ที่แม้ทำาให้ทั้งสองคนบาดเจ็บแต่เป็นการบาดเจ็บในระดับที่ไม่เป็นอันตรายแก่ชีวิต จึงทำาให้
            เป็นการตอบสนองที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในสถานการณ์นั้น


                     ในกรณีศึกษานี้ หากพิจารณาในอีกส่วนหนึ่ง การที่รถยนต์มีระบบตรวจจับความ
            เคลื่อนไหวและสิ่งรอบข้างเพื่อจะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น การที่นายอังคารข้ามถนนใน

            ลักษณะดังกล่าวอาจบ่งบอกด้วยเช่นกันว่านายอังคารต้องข้ามถนนในระยะกระชั้นชิด ไม่เช่น
            นั้นแล้วรถยนต์ควรจะตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ก่อนหน้านั้นและอาจใช้มาตรการต่างๆ ที่

            ทำาให้ไม่เกิดอุบัติเหตุและทำาให้ทั้งนายจันทร์และนายอังคารปลอดภัยทั้งคู่ นายอังคารจึงมีส่วน

            ทำาให้เกิดอุบัติเหตุอยู่มากพอควรเช่นกัน และอาจกล่าวได้ยากเช่นกันว่าอันตรายที่เกิดขึ้นเป็น
            เพราะรถยนต์คันดังกล่าวเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย


                     ประเด็นที่ต้องพิจารณาในเชิงนโยบายกฎหมาย (Legal policy) จึงเกิดขึ้นได้ว่ากรณี
            แบบนี้จะกำาหนดให้ภาระความรับผิดชอบชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นควรจะตกอยู่ที่

            ใครระหว่างนายจันทร์ที่อยู่ในรถยนต์ นายอังคารที่อาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ หรือบริษัท
            ผู้ผลิตรถยนต์คันดังกล่าวและความรับผิดนั้นควรตั้งอยู่บนพื้นฐานทางกฎหมายเรื่องใด


                     หากเป็นกรณีที่รถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่บริษัทที่ทำาธุรกิจขนส่งในลักษณะ
            Ride sharing ให้บริการแก่นายจันทร์ นายจันทร์ไม่น่าจะต้องรับผิดใดๆ เพราะบริษัทดังกล่าว

            ย่อมเป็นเจ้าของและผู้ควบคุมการทำางานของรถยนต์คันดังกล่าว ไม่ต่างจากการที่นายจันทร์
            นั่งรถแท็กซี่แล้วคนขับขับไปชนคนอื่น ผู้ที่โดยสารไปย่อมไม่เกิดความรับผิดต่อความเสียหายที่

            เกิดขึ้น แต่หากรถยนต์คันนั้นเป็นของนายจันทร์เอง บทบัญญัติตามมาตรา ๔๓๗ แห่งประมวล

            กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ย่อมจะเข้ามามีบทบาท เพราะแม้ว่าการที่รถแล่นไปตามเส้นทาง
            ด้วยระบบควบคุมของรถเอง แต่การที่นายจันทร์เป็นผู้ที่ใช้รถยนต์คันดังกล่าวและกำาหนด

            ให้รถยนต์เดินทางไปยังจุดหมายที่กำาหนดก็อาจกล่าวได้ว่านายจันทร์เป็นผู้ครอบครองหรือ
            ควบคุมดูแลยานพาหนะที่อาจต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น เพียงแต่การให้นายจันทร์





            248                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264