Page 153 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 153

๑๓๔



                       เป็นสอุตตระว่า จิตเป็นสอุตตระ หรือรู้ชัดจิตที่เป็นอนุตตระว่าจิตเป็นอนุตตระ รู้ชัดจิตที่เป็นสมาธิว่า
                       จิตเป็นสมาธิ หรือรู้ชัดจิตไม่เป็นสมาธิว่าจิตไม่เป็นสมาธิ รู้ชัดจิตที่หลุดพ้นแล้วว่า จิตหลุดพ้นแล้ว หรือ

                                                        ้
                       รู้ชัดจิตที่ยังไม่หลุดพ้นว่า จิตยังไม่หลุดพนด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นจิตในจิตภายใน
                                                                                                  ๓๑
                       ตนและภายนอกตนอยู่มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้

                                 เพียรป้องกันบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิด ภิกษุสร้างฉันทะ พยายาม ปรารภ ความ
                       เพียร ประคองจิต มุ่งมั่นเพื่อป้องกันบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิด เป็นอย่างไร บรรดา ธรรม

                       เหล่านั้น บาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เป็นไฉน อกุศลมูล ๓ คือ โลภะ โทสะ โมหะ และกิเลสที่ ตั้งอยู่

                       ในฐานเดียวกับอกุศลมูลนั้น ได้แก่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ที่ สัมปยุต
                       ด้วยอกุศลมูลนั้น และกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่มีอกุศลมูลนั้นเป็นสมุฏฐานธรรมเหล่านี้ เรียกว่า

                       บาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ภิกษุสร้างฉันทะ พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิต มุ่งมั่น เพื่อ
                                                                       ๓๒
                       ป้องกันบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดด้วยประการฉะนี้

                                 เพยรละบาปอกุศลธรรมที่เกิดแล้ว ภิกษสร้างฉันทะ พยายาม ปรารภความเพียร ประคอง
                                   ี
                                                                 ุ
                       จิตมุ่งมั่นเพื่อละบาปอกุศลธรรมที่เกิดแล้ว เป็นอย่างไร บรรดาธรรมเหล่านั้น บาปอกุศลธรรม ที่เกิด
                       แล้ว เป็นไฉน อกุศลมูล ๓ คือ โลภะ โทสะ โมหะและกิเลสที่ตั้งอยู่ในฐานเดียวกันกับอกุศลมูล นั้น

                       ได้แก่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอกุศลมูลนั้น และกายกรรม
                       วจีกรรม มโนกรรมที่มีอกุศลมูลนั้นเป็นสมุฏฐานธรรมเหล่านี้เรียกว่า บาปอกุศลธรรมที่เกิดแล้วภิกษุ

                       สร้างฉันทะ พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิต มุ่งมั่นเพื่อละบาปอกุศลธรรมที่เกิดแล้วเหล่านี้

                       ด้วยประการฉะนี้
                                     ๓๓
                                 เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดแล้วไม่ให้เสื่อม ภิกษุสร้างฉันทะ พยายาม ปรารภความเพียร

                       ประคองจิตมุ่งมั่นเพื่อความดำรงอยู่ ไม่เลือนหาย ภิยโยภาพ ไพบูลย์ เจริญเต็มที่แห่งกุศลธรรม ที่เกิด
                       แล้ว เป็นไฉน บรรดาธรรมเหล่านั้น กุศลธรรมที่เกิดแล้ว เป็นไฉน กุศลมูล ๓ คือ อโลภะ อโทสะ

                       และอโมหะ ได้แก่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ที่สัมปยุตด้วยกุศลมูลนั้น
                       และกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่มีกุศลมูลนั้นเป็นสมุฏฐาน ธรรมเหล่านี้เรียกว่า กุศลธรรมที่เกิด

                       แล้ว ภิกษุสร้างฉันทะ พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิต มุ่งมั่นเพื่อความดำรงอยู่ ไม่เลือนหาย

                                                                                 ๓๔
                       ภิยโยภาพ ไพบูลย์ เจริญเต็มที่แห่งกุศลธรรมที่เกิดแล้วด้วยประการฉะนี้




                                 ๓๑  อภิ.วิ. (ไทย) ๓๕/๒๖๕/๓๑๓-๖๙๐.
                                 ๓๒  อภิ.วิ. (ไทย) ๓๕/๓๙๑/๓๒๘-๖๙๐.

                                 ๓๓  อภิ.วิ. (ไทย) ๓๕/๓๙๗/๓๓๐-๖๙๐.
                                 ๓๔  อภิ.วิ. (ไทย) ๓๕/๔๐๕/๓๓๒-๖๙๐.
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158