Page 234 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 234

๒๑๓



                       แล้วออกมาตรงๆทั้งทางกายและทางวาจา เช่น การทำร้ายร่างกาย การทำรายสิ่งของ หรือคำพูดด่า
                       ทอ ต่อว่า ประชดประชัน เช่น การเขียนระบายสิ่งที่ทำให้โกรธ การตะโกนหรือพูดคำหยาบกับตัวเอง

                                                                   ื
                       การข้างปาสิ่งของเพื่อระบายโกรธ (Rage) เป็นต้น เพ่อปลดปล่อยความโกรธออกมาไม่ให้เก็บกดไว้ใจ
                       ทางจิตวิทยาเป็นสิ่งที่ให้ผลสัมฤทธิ์อย่างรวดเร็ว แต่ในมุมทางพระพุทธศาสนาเห็นว่ายิ่งระบายอารมณ์

                                                                 ่
                                                         ิ่
                       โกรธมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการตอกย้ำและเพมกำลังแกความโกรธมากทวีคูณและจะถูกเก็บไว้ในภวังคจิต
                       (จิตใต้สำนึก) ที่รอวันแสดงความโกรธในสถานการณ์และเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นทางแก้ที่เหมาะสม
                       ควรเจริญเมตตาธรรมและฝึกให้อภัยทานเสมอๆ


                                 องค์ประกอบการควบคุมความโกรธ (Anger Pressing: P)  สำหรับการควบคุมความ
                       โกรธในการวิจัยนี้ หมายถึง การอดทนและพยายามทำความเข้าใจความโกรธที่เกิดขึ้น อดทนอดกั้น

                       ไม่ให้แสดงความโกรธต่อผู้คน พยายามหยุดหรือยับยั้งอารมณ์โกรธได้โดยไม่ให้เป็นผลเสียต่อตนเอง
                       และผู้อื่น ในการบูรณาการทางพระพุทธศาสนาผู้วิจัยมีทัศนะว่าการควบคุมความโกรธทางจิตวิทยา

                       เป็นการจัดการความโกรธในระยะต้นน้ำ เพราะในความเป็นจริงความโกรธที่ถูกควบคุมไม่ได้หายไปใน

                       แต่ถูกเก็บไว้ภายในภวังค์จิตเปรียบเทียบกับภูเข้าน้ำแข็งที่ซ่อนความโกรธไว้ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง ดังนั้น
                       การบูรณาการหลักธรรมระงับความโกรธร่วมในการจัดการความโกรธ จะเป็นการจัดการทั้งต้นน้ำ

                       กลางน้ำ และปลายต้น ได้อย่างเหมาะสมด้วยการการเจริญเมตาธรรมพร้อมการปฏิบัติธรรมเพื่อความ

                       ดับ ราคะ โทสะ และ โมหะ คือ การเจริญสมถะและวิปัสสนาภาวนา
   229   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239