Page 238 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 238
๒๑๗
หนึ่ง นอกจากนี้ ในพระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต นีวรณปหานวรรค ได้กล่าวถึง
ปัจจัยให้เกิดโทสะ ๒ อย่างนี้ คือ ๑. ปฏิฆนิมิต (นิมิตให้ขัดเคือง) ๒. อโยนิโสมนสิการ
สำหรับการแสดงลำดับขั้นของการเกิดความโกรธ ตามธรรมชาติของการเกิดความโกรธ
(โทสะ) ย่อมเป็นไปตามลำดับขั้นที่ชัดเจนโดยไม่มีการข้ามขั้นตอน สรุปได้ดังแผนภูมิที่ ๕.๑
อรต ิ ปฏิฆ โกธะ โทสะ พยาบาท
ะ สะ
ภาพที่ ๕.๑ ลำดับขั้นของการเกิดความโกรธ
ส่วนระดับความรุนแรงของความโกรธแบ่งออกเป็น ๓ ระดับ คือ ปฏิฆะ (ระดับเล็กน้อย)
โกธะ (ระดับปานกลาง) และ อุปนาหะ(ระดับมากที่สุด)
ทั้งนี้เมื่อเกิดความโกรธขึ้นบุคคลจะแสดงความโกรธทางกาย วาจา และใจ และส่งผลให้
เกิดโทษทางกาย วาจาและทางใจ ในโกธนสูตร ได้กล่าวถึง โทษของความโกรธไว้ ๗ ประการ คือ ๑)
ผู้โกรธบ่อยย่อมเกิดผิวพรรนทรามเพราะใจที่ขุ่นมัว ๒) ผู้โกรธบ่อยย่อมมีความทุกข์ครอบงำใจ ๓)
ผู้โกรธบ่อยทำสิ่งใดไม่ค่อยเจริญ ๔) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากทรัพย์ ๕) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากยศ ๖)
ผู้โกรธบ่อยย่อมขาดมิตรเพราะบุคลต่างๆจะไม่อยากอยู่ใกล้ ๗) ผู้โกรธบ่อยย่อมมักทำความผิดได้
รุนแรง อยู่ในชาติปัจจุบันย่อมเดือดร้อนกายใจ เมื่อตายไปย่อมมีทุกคติเป็นที่หมาย
๒) หลักธรรมระงับความโกรธในพระพุทธศาสนา จากการศึกษาวิเคราะห์ในคัมภีร์
พระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า หลักธรรมระงับความโกรธมีหลายหลักธรรมเป็นไปตามบุคคล สถานที่
เวลา และเหตุการณ์ที่เกิด สำหรับการวิจัยนี้ สรุปหลักธรรมระงับความโกรธ มีดังนี้ หลักไตรสิกขา
(อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และ อธิปัญญาสิกขา) ฆราวาสธรรม ๔ ความเพียร ๔ อริยสัจ ๔ อนุสติ ๑๐
(๑. พุทธานุสสติ ๒. ธัมมานุสสติ ๓. สังฆานุสสติ ๔. สีลานุสสติ ๕. จาคานุสสติ ๖. เทวตานุสสติ ๗.
อปสมานุสติ ๘. มรณสติ ๙. อานาปานสติ ๑๐. กายคตาสติ) หลักเจริญเมตาธรรมและอภัยทาน และ
ุ
วิธีการปฏิบัติธรรมเพื่อความสิ้นราคะ โทสะ และโมหะ คือ การเจริญสมถะและวิปัสสนาภาวนา ทั้งนี้
ในหลักธรรมแต่ละหลักธรรมควรนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมเมื่อเกิดความโกรธทางกาย ทางวาจา
และ ทางใจ สำหรับวิธีการระงับความโกรธทางพระพุทธศาสนามุ่งเน้นไปที่การยอมรับ เข้าใจ ให้
อภัยทาน และ ปล่อยวางความโกรธภายในจิตใจตนเอง

