Page 243 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 243
๒๒๒
จากตารางที่ ๔.๑๙ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความโกรธระดับต่ำ ร้อยละ ๒๓ มีความโกรธ
ระดับปกติทั่วไป ร้อยละ ๕๙ และมีความโกรธระดับสูง ร้อยละ ๑๘ แสดงให้เห็นว่า สามารถนำโมเดล
“FIRE-UP Model” ไปใช้ประเมินความโกรธกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในสังคมปัจจุบันต่อไปได้
ิ
๓) อิทธิพลของปัจจัยทางพุทธศาสนาและจิตวทยากับการแสดงความโกรธ (Anger
Expression) ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis: CFA)
สมการ FIRE-UP Model มี ๕ ปัจจัย คือ ปัจจัยการแสดงความโกรธภายใน ปัจจัยการให้อภัย
ปัจจัยการแสดงความโกรธภายนอก ปัจจัยอุปนิสัยความโกรธ และ ปัจจัยการควบคุมความโกรธ โดย
ทั้ง ๕ ปัจจัย มีน้ำหนักอิทธิพลส่งผลต่อการแสดงความโกรธ เท่ากับ .๘๘ .๗๒ .๖๑ .๔๐ และ .๒๕
ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทางระดับสูง .๐๐๑ และมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิง
ประจักษ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
สรุปความได้ว่า โมเดล FIRE-UP นี้สามารถนำไปใช้กับข้อมูลเชิงประจักษ์ในสังคม
ปัจจุบันได้ นอกจากนี้ เห็นได้ว่า ปัจจัยการให้อภัยมีน้ำหนักอิทธิพลส่งผลต่อความโกรธที่ .๗๒ ที่ค่า
น้ำหนักอิทธิพล เท่ากับ ๑ (FL=๑) คิดในมุมร้อยละ(%) อธิบายความได้ว่า ปัจจัยให้อภัยมีผลต่อการ
จัดการความโกรธที่ ร้อยละ ๗๒ รองจาก ปัจจัยการแสดงความโกรธภายใน ร้อยละ ๘๘ ปัจจัยการ
แสดงความโกรธภายนอก ร้อยละ ๖๑ ปัจจัยอุปนิสัยความโกรธ ร้อยละ ๔๐ และ ปัจจัยควบคุมความ
โกรธ มีอิทธิพลต่ำสุด คือ ร้อยละ ๒๕ (รายละเอียดตามภาพที่ ๕.๔)
2
df=1 = ๑๔.๔๖, P-value = ๐.๐๑, CMIN/DF = ๑๔.๙๔๔, GFI = .๙๗๘,
๗
CFI = .๙๑๕, NFI = . ๑ ๕ , RMR = .๐๑๔, RMSEA = .๒๐๓, AVE = .๓๘, CR = . ๓ ,
๙
** P-value < .๐๐๑
ภาพที่ ๕.๔ ตัวแบบการแสดงความโกรธ FIRE-UP

