Page 242 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 242
๒๒๑
โมเดล P CMIN/ GFI CFI NIF RMR RMSE AV CR ผล
value DF A E ประเมิน
Anger .๐๘๑ ๑.๔๖๘ .๙๘๑ .๙๗๙ .๙๓๘ .๐๑๔ .๐๓๗ .๒๕ .๗๘ ผ่าน
Trait
Anger Out .๓๙๒ ๑.๐๕๒ .๙๙๔ .๙๙๘ .๙๙๖ .๐๑๓ .๐๑๒ .๑๕ ๓.๖๘ ผ่าน
Anger In .๓๗๐ ๑.๐๘๔ .๙๙๒ .๙๙๙ .๙๙๐ .๐๑๓ .๐๑๖ .๓๐ .๘๑ ผ่าน
Anger . ๑.๒๓๔ .๙๙๐ .๙๙๕ .๙๗๖ .๐๑๖ .๐๒๖ .๒๔ .๗๑ ผ่าน
Pressing
๒๕๗
FIRE-UP .๐๐๑ ๑.๙๔๖ .๙๐๕ .๙๓๑ .๙๐๔ .๐๕๐ .๐๕๒ .๓๕ .๘๙ ผ่าน
Model
จากตารางที่ ๕.๑ พบว่า โมเดล FIRE-UP ผ่านเกณฑ์การประเมินความสอดกลมกลืน
หมายความว่า โมเดล FIRE-UP นี้สามารถนำไปใช้ประเมินความโกรธกับข้อมูลเชิงประจักษ์หรือ
สถานการณ์ในปัจจุบันได้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่การทดสอบตัวแบบย่อยแต่ละ
องค์ประกอบ คือ Forgiveness Anger Trait Anger Out Anger In และ Anger Pressing ผล
การทดสอบตัวแบบย่อยผ่านเกณฑ์ทุกตัวเช่นกัน
ิ
ู
๒) การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ได้จากการวจัยกับข้อมลเชิงประจักษ์ ผลการการ
ตรวจสอบองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย “FIRE-UP Model” นำมาประเมินระดับความโกรธ (Anger
Expression Level) ใช้เกณฑ์การวัดระดับความโกรธของสปิลเบอร์เกอร์ จากข้อมูลเชิงประจักษ์
จำนวน ๑๐๐ ราย ผลการวิเคราะห์ รายละเอียดตามตารางที่ ๕.๒
ตารางที่ ๕.๒ ระดับการแสดงความโกรธ (n=๑๐๐)
ความโกรธ ความหมาย จ านวน ร้อยละ
ระดับต่ำ เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วสามารถควบคุมได้ ๒๓ ๒๓.๐
ระดับปกติทั่วไป เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแต่เก็บไว้ภายใน ไม่ถึงกับ ๕๙ ๕๙.๐
ส่งผลกระทบทางลบแก่ผู้อื่น
ระดับสูง เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วจะแสดงออกภายนอก ๑๘ ๑๘.๐
และส่งผลกระทบทางลบแก่ผู้อื่นได้
ค่าเฉลี่ยความโกรธ ( S.D.) = ๓๘.๕๖ ๕.๔๘) ค่าต่ำสุด-สูงสุด (๒๖.๐ - ๕๓.๐)
̅

