Page 203 - Liver Diseases in Children
P. 203
ไวรัสตับอักเสบ 193
pthaigastro.org
กำรปลูกถ่ำยตับ (universal immunization) อุบัติการณ์ของมะเร็งตับ
ื
ี
ข้อบ่งช้ของการปลูกถ่ายตับในเด็กที่ติดเช้อ ชนิด HCC ในเด็กและวัยรุ่นลดลงร้อยละ 70 30
HBV ได้แก่ ตับวายเฉียบพลันและตับแข็ง พบการ ตารางการฉีดวัคซีนมาตรฐาน คือ แรกเกิด (ภายใน
กลับมีอาการโรค (recurrence) หลังปลูกถ่ายตับได้ 12-24 ชั่วโมงหลังเกิด) อายุ 1-2 และ 6 เดือน ใน
ู่
บ่อยในรายที่เป็นตับแข็ง เนื่องจากมี HBV อยในอวัยวะ ประเทศไทยใช้วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
อื่นนอกตับด้วย จึงต้องให้ lamivudine และ HBIG ตับอักเสบบี (combined DTP-HB) ดังนั้นตารางการ
เพื่อป้องกันการกลับมีอาการโรคในตับที่ปลูกถ่าย ฉีดวัคซีนจึงเป็นวัคซีนป้องกัน HBV (monovalent)
ตอนแรกเกิด วัคซีนรวม (combined DTP-HB)
กำรรักษำในกลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่องจำกยำ ที่อายุ 2, 4 และ 6 เดือน ส่วนทารกที่มีแม่เป็นพาหะ
ควรตรวจคัดกรอง HBV ก่อนเริ่มการรักษาใน HBV นอกเหนือจากวัคซีนดังกล่าวมาแล้ว ควรได้รับ
�
เด็กท่จาเป็นต้องได้รับยาเคมีบ�าบัด สเตียรอยด์ hepatitis B immune globulin (HBIG) ภายใน 12
ี
rituximab หรือ monoclonal antibodies รายที่มี ชั่วโมงหลังเกิด และต้องได้รับวัคซีน monovalent
ผลเลือดเป็นลบควรฉีดวัคซีนป้องกัน ส่วนรายที่เป็น เพิ่มอีก 1 ครั้งที่อายุ 1 เดือน ในทารกที่มีแม่เป็น
CHB หรือตรวจไม่พบ HBsAg แต่ตรวจพบ anti- พาหะ HBV ควรตรวจ HBsAg และ anti-HBs ใน
HBc และ HBV DNA ควรได้รับยากลุ่ม NAs ใน ช่วงอายุ 9-12 เดือน เพ่อประเมินการติดเช้อหรือ
ื
ื
่
ช่วงทีได้รับยากดภูมิคุ้มกันดังกล่าวมาแล้ว โดยให้ การมีภูมิคุ้มกัน การศึกษาของศูนย์เช่ยวชาญฯ ใน
ี
ต่อเนืองไปจนอย่างน้อย 6 เดือนหลังหยดยากด ทารกที่แม่ไม่เป็นพาหะ HBV พบว่าวัคซีนรวมมี
ุ
่
ภูมิคุ้มกันเพ่อป้องกัน HBV reactivation ยา ประสิทธิภาพดีเท่ากับวัคซีนชนิด monovalent 31
ื
lamivudine มีประสิทธิภาพดีในรายที่มีระดับ HBV ระดับ anti-HBs ที่มากกว่า 10 ไอยู/ลิตร เป็น
DNA ต�่า (น้อยกว่า 2,000 ไอยู/มล.) และได้รับยา ระดับท่สามารถป้องกันการติดเช้อได้ (protective
ี
ื
ั
กดภูมิคุ้มกันระยะส้น ส่วนผู้ป่วยที่มีระดับ HBV DNA level) โดยทั่วไปวัคซีนป้องกัน HBV สามารถกระตุ้น
สูง หรือต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน ควร ให้สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ยกเว้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกัน
ได้รับยา NAs ที่มี high genetic barrier ต่อการ บกพร่องหรือท�า dialysis ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นอยู่ได้
ดื้อยา ได้แก่ entecavir หรือ tenofovir นาน ยังเป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องความจ�าเป็นในการ
ื
กำรป้องกัน ฉีดวัคซีนกระตุ้น เน่องจากในเด็กโตหรือวัยรุ่นมัก
วัคซีนป้องกัน HBV มีประสิทธิภาพดี ช่วยลด ตรวจไม่พบ anti-HBs ยง ภู่วรวรรณและคณะ
ื
ความชุกของการติดเช้อทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย รายงานประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกัน HBV ใน
ดังกล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นวัคซีนชนิดแรกที ่ ระยะยาว โดยติดตามอาสาสมัครที่มีแม่เป็นพาหะ
32,33
สามารถป้องกันการเป็นมะเร็ง ข้อมูลจากประเทศ HBV และมี HBeAg เป็นบวก พบว่าเมื่อติดตาม
ไต้หวันพบว่าหลังจากมีการฉีดวัคซีนให้ทารกทุกคน อาสาสมัครไปประมาณ 20 ปี ร้อยละ 64 ยังคงมี
้
ื
anti-HBs ในระดับที่สามารถป้องกนการติดเชอได้
ั