Page 138 - เพชรพระอุมา เล่ม 1
P. 138

138



                            หนุมชาวดง นักพเนจรผูมาสมัครเปนคนใชของคณะเดินปา ยิ้มยิงฟนหันไปมองดูเชษฐา

                   อดีตนายพันโท หัวหนาคณะเดินปาก็กลาวชวนมาอีกคนหนึ่ง แตแงซายยังรีรออึกอัก ชายตาชําเลือง
                   ไปทางรพินทรผูมองดูอยูเงียบๆ  เหมือนจะรอขออนุญาตอีกคนหนึ่ง  อาการนี้คณะนายจางทั้งสาม

                   ไมไดเฉลียวคิด แตจอมพรานยอมจะรูทันและเขาใจดี

                            “ไปดวยกัน แงซาย!”
                            รพินทรเอยปากต่ําๆ

                            แงซายไมปริปากพูดคําใด เดินไปที่ปนคูมือซึ่งวางอยูหนาเต็นท ฉวยติดมือแลวก็ออกเดิน

                   ตามหลังมาอยางสงบ  รพินทรออกนําตัดทางเขาไปในดงประมาณ 20  นาที  ก็ทะลุออกบริเวณปา

                   โปรงสลับกับทุงหญาคา มาถึงหางแหงแรกที่ขัดไวบนซุมไผคู ชัยภูมิเหมาะเพราะบริเวณนั้นเต็มไป
                   ดวยดอกมะคาโมง  และลูกหมาดที่หลนอยูเกลื่อนกลาด  เปนอาหารโปรดของเกงกวาง  มีรอยใหมๆ

                   ย่ําไวเปรอะไปหมด

                            เขากําหนดใหดารินขึ้นประจําหางนี้  โดยใหบุญคํานั่งเปนเพื่อนดวย  หลอนไมไดโตเถียง

                   หรือขัดแยงอะไรเหมือนเคย  จัดแจงปนบันไดที่ทําไวขึ้นไปโดยดี  บุญคําไตตามขึ้นไปทีหลัง  พี่ชาย
                   กําชับนองสาวใหปฏิบัติตามคําตักเตือนแนะนําของพรานผูคุมกัน  และรพินทรก็สั่งอะไรบุญคําอยู

                   สองสามคํา  แลวก็นําเชษฐากับไชยยันตออกเดินตอไป  โดยวกเขาดงทึบอีกครั้ง  อาศัยเดินไปตาม

                   ดานสัตวซึ่งกลาดเกลื่อนไปดวยมูลชาง ทั้งเกาและใหมชนิดหลีกแทบไมพน แงซายคงเดินเปนคนรั้ง
                   ทายตามเคย

                            สําหรับเชษฐากับไชยยันต เมื่อมาเดินอยูในดงเคียงคูรพินทรอยูเชนนี้ จึงสังเกตเห็นไดชัด

                   วา จอมพรานเดินไดคลองแคลววองไวและรวดเร็วอยางประหลาด ชนิดที่เรงฝเทาแทบจะไมทัน ทุก
                   ฝกาวยางของเขาไดระดับสม่ําเสมอและเบากริบอยางนาอัศจรรย  และยิ่งเดินก็ดูเหมือนจะยิ่งเร็วขึ้น

                   ทุกขณะ ผิดกับเชษฐาและไชยยันตซึ่งเริ่มจะลาลงเปนลําดับ เทายางสวบๆ ไป ตาก็กราดไปรอบดาน

                   อาจหยุดชะงักเล็กนอยเหมือนจะคะเนทิศ  หรือสํารวจทางเพื่อตัดสินใจ  แลวก็ออกเดินนําตอไป  ไม
                   สามารถจะบอกไดวา  เขามีที่หมายหรือขอสังเกตอยางไรในการเดิน  ดูมันเปนอัตโนมัติไปหมด

                   เชษฐาสะกิดใหไชยยันตดู แลวยิ้มออกมาอยางพึงพอใจ กระซิบ

                            “เมื่อพบกันในเมือง  เราไมมีทางจะเห็นชัดไดเลยวา  เขาจะเปนพรานใหญไดอยางไร  แต

                   เมื่อมาเดินกันอยูในปาเดี๋ยวนี้ เราถึงไดรู เขาเปนยอดของพรานจริงๆ”
                            “ฉันประหลาดใจในขอที่วา  เขาเอาอะไรมาเปนที่สังเกตนะ  ตนไมหรือดานสัตวมันก็

                   เหมือนกันหมดทั้งนั้น  ไมวาจะมองไปทางไหน  เห็นรพินทรดูอยูสี่ทางเทานั้น  คือซาย  ขวา  สูง  ต่ํา

                   แลวก็พาเราจ้ําอาว สําหรับเราตอใหพาเดินอยางนี้สักสิบเที่ยว แลวใหเดินมาเองก็หลงแหงๆ
                            “รพินทรเดินดวยสัญชาตญาณ  ความเคยชินและประสาทสัมผัส  เขาอาจมีวิธีสังเกตจดจํา

                   ตามวิธีของเขาซึ่งถึงจะบอกเรายังไงเราก็ไมมีทางจะเขาใจ พรานทุกคนก็อยางนี้แหละ มายงั้นเขาจะ

                   มีอาชีพเปนพรานอยูไดหรือ  ฉันก็เคยเที่ยวกับพรานมือเยี่ยมๆ  หลายคนมาแลว  เมื่อมาเปรียบกับ



                   [E-book] เพชรพระอุมา by SonyaLee (evol_oon@hotmail.com)
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143