Page 241 - Publicationa15
P. 241

ประชาธิปไตย : ประวัติศาสตร์ แนวคิด ปัญหา แนวทางแก้ไขและพัฒนา  233



                 และตัวแทนของฐานันดรที่ 3 คือ ประชาชน สถาบันกษัตริย์มีบทบาทส�าคัญ

                 ต่อระบบการปกครองมากเพราะสถาบันนี้ท�าให้เกิดความประทับใจ ความ
                 ภาคภูมิใจ รวมใจในหมู่ประชาชน ความจงรักภักดีและความสมานฉันท์ในชาติ
                 ส่วนอ�านาจสูงสุดทางกฎหมายอยู่ที่รัฐสภาซึ่งประกอบด้วย สภาขุนนาง (House
                 of Lords) และสภาสามัญ (House of Commons) ไม่มีอ�านาจอื่นใดจะขัดขวาง
                 อ�านาจของรัฐสภาได้นอกจากอ�านาจการเมืองของประชาชน แต่เมื่อประชาชน

                 ได้เลือกผู้แทนเข้ามาสู่สภาสามัญชนแล้ว ผู้แทนราษฎรจึงเป็นผู้ถืออ�านาจ
                 อธิปไตยแทนประชาชน  11
                        ในระบบรัฐสภาอังกฤษไม่ได้แบ่งแยกอ�านาจฝ่ายบริหารออกจาก
                 ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเด็ดขาด เพราะคณะรัฐมนตรีเปรียบเสมือนคณะกรรมการ
                 ของรัฐสภาแต่มีอ�านาจพิเศษที่สามารถยุบสภาสามัญ (สภาผู้แทนราษฎร) ได้
                 การบริหารงานในระบบคณะรัฐมนตรีเป็นการบริหารงานภายใต้ก�ากับของรัฐสภา

                 การควบคุมเสียงในรัฐสภาโดยเฉพาะในสภาสามัญจึงเป็นเงื่อนไขส�าคัญของ
                 ระบบนี้ อย่างไรก็ตาม แม้รัฐสภาเป็นศูนย์กลางของอ�านาจก็มิได้หมายความว่า
                 รัฐสภาจะเข้าไปก้าวก่ายการด�าเนินงานของศาลหรือตุลาการได้ อ�านาจอัน
                 เป็นอิสระของศาลหรือตุลาการได้รับการรับรองตามหลักของการปกครองโดย
                 กฎหมายหรือหลักนิติธรรม (Rule of Law) มาหลายศตวรรษแล้ว แต่แม้

                 สถาบันตุลาการจะเป็นอิสระจากการก้าวก่ายของฝ่ายบริหารสถาบันตุลาการ
                 ก็ไม่มีอ�านาจที่จะขัดแย้งกับกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภาหรือประกาศว่า
                 กฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ 12
                        ระบบรัฐสภาอังกฤษมีกลไกการคานอ�านาจสืบทอดมาจากระบบดั้งเดิม
                 ที่สถาบันกษัตริย์และขุนนางต่างคานอ�านาจซึ่งกันและกัน และมีฐานันดรที่สาม

                 คือประชาชนคานอ�านาจกับขุนนาง ในสมัยแรกๆ สภาขุนนางหรือวุฒิสภาจึง
                 ท�าหน้าที่คานอ�านาจกับฝ่ายบริหารคือพระมหากษัตริย์ แต่ภายหลังสภาขุนนาง
                 ท�าหน้าที่คานอ�านาจกับสามัญชน ต่อมาในปี ค.ศ. 1911 มีพระราชบัญญัติ
                 ที่ลิดรอนอ�านาจของสภาขุนนางให้ไม่มีอ�านาจในการเสนอร่างพระราชบัญญัติ



                 11  วิชัย ตันศิริ, อ้างแล้ว, หน้า 320 - 321.
                 12  วิชัย ตันศิริ, อ้างแล้ว, หน้า 321 - 322.





        _17-0315(224-249)11.indd   233                                     4/27/60 BE   11:57 AM
   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246