Page 243 - Publicationa15
P. 243
ประชาธิปไตย : ประวัติศาสตร์ แนวคิด ปัญหา แนวทางแก้ไขและพัฒนา 235
นอกจากนี้ การปกครองในรูปแบบประธานาธิบดียังมีหลักการที่ส�าคัญ
คือ หลักการแบ่งแยกอ�านาจหลักการคานอ�านาจและหลักอ�านาจประธานาธิบดี
ซึ่งแต่ละหลักมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
หลักการแบ่งแยกอ�านาจ (Separation of Powers) หมายถึง การแบ่งแยก
อ�านาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ ซึ่งก็คือ สภาคองเกรส
ประธานาธิบดี และศาล ตามล�าดับ แต่ละองค์กรเป็นอิสระซึ่งกันและกัน
ไม่มีองค์กรใดมีอ�านาจมากกว่ากัน ประธานาธิบดีเป็นอิสระจากสภาคองเกรส
เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี สภาคองเกรสไม่มีอ�านาจขับไล่
ประธานาธิบดี ประธานาธิบดีไม่มีอ�านาจยุบสภาคองเกรส การปฏิบัติหน้าที่
นิติบัญญัติเป็นหน้าที่ของสภาคองเกรสซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและ
วุฒิสภา ประธานาธิบดีไม่มีอ�านาจหน้าที่เสนอร่างพระราชบัญญัติ สภาคองเกรส
ไม่สามารถก้าวก่าย ก�ากับหรือตรวจสอบการบริหารงานของฝ่ายบริหารโดย
การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเสนอนโยบายการบริหาร ยกเว้นเพียงกรณีการ
ตรวจสอบความประพฤติของประธานาธิบดีเพื่อถอดถอน (Impeachment)
และการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง นอกจากนี้ องค์กรตุลาการก็มีความเป็น
อิสระจากสภาคองเกรส และประธานาธิบดี แม้ประธานศาลสูงสุดจะได้รับ
การเสนอชื่อจากประธานาธิบดีและต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา แต่เมื่อ
ได้รับการแต่งตั้งแล้ว ประธานศาลสูงสุดก็มีอิสระ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
จะก้าวก่ายภาระหน้าที่ของฝ่ายตุลาการมิได้อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตุลาการสูงสุด
มีอ�านาจประกาศว่า กฎหมายต่างๆ ที่สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบแล้วนั้น
ขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ 15
หลักการคานอ�านาจ (Balances of Power) แม้รัฐธรรมนูญวางหลักการ
แบ่งแยกอ�านาจแต่รัฐธรรมนูญก็สร้างระบบการคานอ�านาจหรือการถ่วงดุล
แห่งอ�านาจ (Check and balances) ไว้ เช่น แม้สภาคองเกรสจะมีอ�านาจ
หน้าที่ร่างกฎหมาย แต่ผู้มีอ�านาจขั้นสุดท้ายในการให้ความเห็นชอบคือ
ประธานาธิบดีซึ่งท�าหน้าที่ประมุข ประธานาธิบดีมีอ�านาจยับยั้งร่างพระราชบัญญัติ
(veto) ได้เพียง 1 วาระ (1 ปี) นอกจากนี้ประธานาธิบดีต้องขอความเห็นชอบ
15 วิชัย ตันศิริ, อ้างแล้ว, หน้า 327-329.
_17-0315(224-249)11.indd 235 4/27/60 BE 11:57 AM