Page 338 - Publicationa15
P. 338
330 อุดมศักดิ์ นิติมนตรี
ข้อสังเกต
จากค�าวินิจฉัยทั้งสองข้างต้น ตรงกันในข้อที่ผู้กล่าวหาต้องพิสูจน์ความผิด
ของนิติบุคคลก่อน ซึ่งก็คือการพิสูจน์การกระท�าของผู้แทนนิติบุคคลนั่นเอง
และผู้แทนนิติบุคคลย่อมมีโอกาส พิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนร่วมในการกระท�าผิด
นั้นเช่นกัน คงแตกต่างกันที่ถ้อยค�าของข้อสันนิษฐาน ตามบทบัญญัติของ
กฎหมายแต่ละฉบับเท่านั้น กล่าวคือข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 158 ที่บัญญัติว่า ในกรณีที่ผู้กระท�า
ความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระท�าความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจาก
การสั่งการ หรือการกระท�าของบุคคลใด หรือไม่สั่งการ หรือไม่กระท�าการ
อันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระท�าของกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบ
ในการด�าเนินงานของนิติบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ส�าหรับ
ความผิดนั้นๆ ด้วย ไม่ใช่การสันนิษฐานว่าผู้แทนของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้กระท�า
ความผิดตั้งแต่แรก
แต่ข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแรงงาน
พ.ศ. 2545 มาตรา 54 ที่บัญญัติว่า ในกรณีที่ผู้กระท�าความผิดซึ่งต้องได้รับโทษ
ตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติบุคคล ให้กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด
ซึ่งรับผิดชอบในการด�าเนินงานของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษตามที่กฎหมาย
ก�าหนดไว้ส�าหรับความผิดนั้นๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วน ในการ
กระท�าความผิดของนิติบุคคลนั้น เป็นการสันนิษฐานตั้งแต่แรกว่าผู้แทนของ
นิติบุคคลนั้นได้ กระท�าความผิดด้วย
กฎหมายควบคุมการประกอบอาชีพธุรกิจต่างๆ มีความสลับซับซ้อนใน
หลายระดับของสังคม โดยเฉพาะปัจจุบันมีการด�าเนินกิจกรรมด้วยการ
มอบหมายสั่งการให้ตัวแทนเชิดหรือนอมินี กระท�าการแทนอย่างแพร่หลาย
เป็นกรณีที่กระบวนการทางสังคมต้องร่วมกันหาข้อยุติว่า กฎหมายควบคุมการ
ประกอบธุรกิจต่างๆ รัฐสมควรใช้กระบวนการด�าเนินคดีอาญากับอาชญากร
เหล่านี้ประการใด จึงเหมาะสมได้สัดส่วนกับการคุ้มครองสิทธิของปัจเจกชน
และประโยชน์มหาชน กรณีรัฐต้องการให้มีบทสันนิษฐานของกฎหมายไว้
ย่อมต้องเขียนหรือปรับปรุงถ้อยค�าในกฎหมายให้สอดคล้องเป็นท�านองเดียว
กับกฎหมายตามค�าวินิจฉัยที่ 2/2556 เพื่อมิให้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
_17-0315(306-336)15.indd 330 4/27/60 BE 11:58 AM

