Page 83 - Publicationa15
P. 83
แนวทางการพัฒนาการปกครองระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย 75
พยายามในการสร้างหลักประกันที่แน่นอนจากการเข้าท�าสัญญาประชาคม
ในลักษณะที่ต่างคนต่างยอมสละสิทธิและเสรีภาพที่ตนมีอย่างไม่จ�ากัด และ
ยอมรับสภาพที่มีสิทธิเสรีภาพโดยมีข้อจ�ากัดตามกฎหมาย รัฐซึ่งเกิดจากสัญญา
ประชาคมย่อมสามารถแสดงเจตนาในรูปแบบของ “เจตจ�านงทั่วไป (General
Will)” หลักดังกล่าวปรากฏในหนังสือ Du Contrat social ซึ่งจัดท�าขึ้นในปี
6
ค.ศ. 1762
รูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
แนวคิดสัญญาประชาคมน�ามาซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ซึ่งมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามขนบธรรมเนียมและประเพณีของแต่ละ
ประเทศ แต่อย่างไรก็ดีรูปแบบการปกครองดังกล่าวต่างยึดถือหลักการส�าคัญ
ที่ว่าอ�านาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยประชาชนเป็นผู้ใช้อ�านาจอธิปไตย
ในการปกครองประเทศโดยตรงหรือโดยผู้แทน ลัทธิประชาธิปไตยแบ่งเป็น
หลายระบอบ ได้แก่ ระบอบการปกครองแบบรัฐสภา (Assembly Government)
ระบอบการปกครองโดยประธานาธิบดี (Presidential Government) และ
ระบอบการปกครองแบบรัฐสภาหรือระบอบรัฐสภา (Parliamentary
Government)
ระบบการปกครองแบบรัฐสภา (Assembly Government) เป็นระบอบ
ที่ฝ่ายบริหารมิได้แยกออกจากรัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เป็นเพียงผู้แทน
หรือเจ้าหน้าที่สภานิติบัญญัติเท่านั้น โดยสภามีอ�านาจแต่งตั้งบังคับบัญชา และ
ถอดถอนฝ่ายบริหาร ระบอบการปกครองโดยสภานี้เคยถูกน�ามาใช้ในประเทศ
ฝรั่งเศสหลายครั้งภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง เช่น หลังการปฏิวัติหรือ
หลังสงครามเมื่อมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้น สภาร่างรัฐธรรมนูญมีอ�านาจ
ในทางนิติบัญญัติและมีอ�านาจหน้าที่บังคับบัญชาฝ่ายบริหารด้วย โดยแต่งตั้ง
บุคคลหรือคณะบุคคลขึ้นท�าหน้าที่ฝ่ายบริหารภายใต้การควบคุมและบังคับ
บัญชาของรัฐสภา ระบอบนี้เคยน�ามาใช้ในประเทศไทยดังปรากฏตามธรรมนูญ
6 เรื่องเดียวกัน, หน้า 221–225
_17-0315(072-090)5.indd 75 4/27/60 BE 11:53 AM