Page 86 - Publicationa15
P. 86
78 ธีระพงศ์ จิระภาค
ขึ้นด�ารงต�าแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่สอง ต่อมารัฐธรรนูญฉบับดังกล่าว
ได้รับการประกาศใช้ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2492 โดยมีสาระส�าคัญที่จะรักษา
หลักการให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้งของพระมหากษัตริย์ และยังคง
แยกข้าราชการประจ�าและข้าราชการการเมือง แต่อ�านาจของจอมพล ป.
สิ้นสุดลงด้วยการท�ารัฐประหารของจอมพล สฤษด์ ธนะรัชต์ ในวันที่
16 กันยายน 2500 ท�าให้จอมพล ป. ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ 10
ภายหลังการท�ารัฐประหารของจอมพล สฤษดิ์ นายพจน์ สารสิน ได้เข้า
ด�ารงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้น จอมพลสฤษดิ์
ด�าเนินการให้พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชุดนี้ต้องเผชิญกับ
การวิพากษ์วิจารณ์และได้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ก็ไม่เป็น
ผลส�าเร็จ ประกอบกับปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหารระหว่างประเทศไทย
กับประเทศกัมพูชา ที่ผลการตัดสินของศาลโลกให้เขาพระวิหารเป็นของ
ประเทศกัมพูชา ท�าให้รัฐมนตรีหลายคนตัดสินใจลาออก ซึ่งจอมพล สฤษดิ์ เชื่อว่า
สาเหตุดังกล่าวมาจากการที่คณะราษฎรน�าระบอบประชาธิปไตยตะวันตกมาใช้
ท�าให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นบ่อยครั้ง และเห็นว่าการจัดระเบียบ
การปกครองของไทยต้องอาศัยหลัก 3 ประการ คือ การเมืองการปกครองต้อง
อาศัย หลักการของไทยเราเอง จะต้องละทิ้งอุดมการณ์ของต่างประเทศ และ
จะต้องฟื้นฟูอุดมการณ์แบบไทยให้เป็น อุดมการณ์หลักของชาติ และเชื่อว่า
ประชาธิปไตยแบบไทยที่เหมาะสม คือ รัฐบาลหรือฝ่ายบริหารมีอ�านาจเหนือ
ฝ่ายนิติบัญญัติ และมีอ�านาจสูงสุด ดังนั้น พรรคการเมืองและการเลือกตั้ง
โดยตรงจากประชาชนจึงไม่ใช่เป็นสิ่งจ�าเป็นต่อระบบการเมืองไทย ต่อมา
จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีและบริหาร
ประเทศตามแบบจอมพล สฤษดิ์ โดยใช้การปกครองแบบประชาธิปไตย
แบบไทย ท�าให้รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังต้อง
เผชิญกับความกดดันจากประชาชน แม้หลังจากที่มีการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อ
10 นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, การเมืองไทยยุคประชาธิปไตย, http://www.moe.go.th/strategy11/
file/3D/ 07-08-09-08.pdf, เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2556
_17-0315(072-090)5.indd 78 4/27/60 BE 11:53 AM