Page 336 - Thai Heritage from Space_ebook
P. 336
07 ํ 49’ N พะโคะ
100 ํ 42’ E
พัทลุง
พะโคะ
สทิงพระ
07 ํ 35’ N
100 ํ 23’ E
สทิงพระ
สงขลา
หัวเขาแดง
N
07 ํ 07’ N
100 ํ 05’ E 4 km.
การตั้งถิ่นฐานบนสันทรายสทิงพระ
ภาพดาวเทียมแสดงให้เห็นขอบเขตทะเลสาบ บริเวณตะวันตกของสันทรายสทิงพระเป็น ปลอดภัยจากคลื่นลมทะเลที่เรือสามารถเข้ามาทอดสมอ
สงขลาถูกปิดกั้นด้วย “สันทรายสทิงพระ” โดยเห็นเป็น ที่ราบลุ่มกว้างจรดชายฝั่งทะเลสาบเป็นแถบพื้นที่ลุ่มยาว ได้ภายในทะเลสาบและขุดคลองเข้าไปถึงบริเวณที่อยู่
แผ่นดินประกอบด้วยสันทรายยาวหลายแนวด้าน สลับกับแนวสันทรายเตี้ย ๆ ซึ่งช่วยในการกักเก็บน�้า อาศัยบนสันทรายด้านตะวันออก เช่นที่เมือง “พะโคะ” 07 ํ 36’ N
100 ํ 24’ E
ตะวันออกติดชายฝั่งทะเลใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประโยชน์ในการท�านา และเป็นปัจจัยส�าคัญในการตั้ง และเมือง “สทิงพระ” เป็นต้น ในอดีตทะเลสาบมีทาง
มีสระน�้าหรือสระพัง และก�าแพงเมือง-คูเมือง ตลอดจน ถิ่นฐานบนสันทรายสทิงพระมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน เปิดออกสู่ทะเลได้ทั้งทางทิศเหนือที่ปากพนัง จังหวัด
คูคลองในการคมนาคมและการชลประทาน มีพื้นที่ท�านา สันทรายสทิงพระด้านตะวันออกติดชายฝั่งทะเลมีที่อยู่ นครศรีธรรมราช ทางทิศใต้ที่ปากน�้าหัวเขาแดง และ
กว้างขวาง พบหลักฐานเป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิต อาศัยบนแนวสันทรายสูงเรียงกันยาวตลอดชายฝั่งที่เป็น ขุดคลองลัดออกทะเล มีเส้นทางข้ามคาบสมุทรจาก
เครื่องปั้นดินเผาส่งออก และร่องรอยการเป็นท่าเรือ แนวเรียบเกือบเป็นเส้นตรง เป็นผลจากคลื่นและกระแส ทะเลสาบสงขลาที่ล�าป�าและบ้านบางแก้วตัดผ่านช่องเขา
เป็นหลักฐานมีผู้คนอยู่อาศัยที่มีมาแต่อดีต ร่องรอย น�้าชายฝั่งที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อการจอดเรือตามแนว หลวง ออกสู่ทะเลอันดามันที่ปะเหลียน จังหวัดตรัง ท�าให้
การตั้งถิ่นฐานบนสันทรายสทิงพระเหล่านี้ยังคงปรากฏให้ ชายฝั่งทะเลและจ�าเป็นต้องอาศัยชายฝั่งภายในทะเลสาบ เพิ่มความส�าคัญในการตั้งถิ่นฐานให้กับทะเลสาบสงขลา
เห็นได้ในภาพจากดาวเทียมตลอดแนวยาวจากอ�าเภอ สงขลา นับได้ว่าทะเลสาบสงขลาเป็นทั้งแหล่งอาหารและ ในอดีต ภายหลังลดความส�าคัญลงเมื่อทะเลสาบตื้นเขิน
ชะอวดจนถึงหัวเขาแดงระยะทางประมาณ ๘๙ กิโลเมตร เส้นทางคมนาคมที่สะดวกของชุมชนโดยรอบอ่าว อีกทั้ง และเส้นทางออกสู่ทะเลด้านทิศเหนือถูกปิดกั้นลง
322 322 l