Page 52 - อนัมศึกษา 2
P. 52
๔๖
เพราะฉะนั้น ถาผูปฏิบัติขาดขันติธรรมแลว ก็ไมอาจกาวหนาบรรลุถึงธรรมเบื้องสูงได ขันติ มีอธิบาย
หลายนัย เชน ความอดทนตอความหนาวรอน ความอดทนตอโรคภัยไขเจ็บ และความอดทนตอ
กิเลส พระโพธิสัตว จะตองมีความอดทนบริบูรณทั้ง ๓ ชนิด จึงจะสามารถผจญตอสูกับอุปสรรคเครื่องกีด
ขวางตอการบรรลุธรรมได อนึ่ง ถาพระ โพธิสัตวใด ขาดวิริยะ กลาคือ ความเพียร พระโพธิสัตวนั้น
ก็ไมสามารถจะกาวไปสูคุณธรรมเบื้องสูงได อันคุณธรรมความดีนั้น เราไมควรจะหยุดยั้งพอใจในชั้นใด
ชั้นหนึ่ง เราควรประกอบกิจใหกาวลวงขึ้นไปสูภูมิธรรมขั้นสูงยิ่ง ๆ ขึ้น จนในที่สุด ใหเขาถึงความไมเกิด
ไมแก ไมเจ็บ ไมตาย อันเปนขั้นสูงสุด
ฌานกับปญญา เปนคูปรับ ทำลายกิเลส คือ โมหะ สมาธิ (ฌาน) บารมีกับปญญาบารมี สมาธิ
บารมีเปนขอสำคัญอีกขอหนึ่ง ที่พระโพธิสัตว จะตองมี สำหรับสงบระงับความหวั่นไหวของจิตตอโลก
ธรรม ผูปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ถาขาดสมาธิแลว ก็งายตอการถูกโลกธรรมชักจูงใหผันแปรไป
เชน พระธรรมกถึก ที่สามารถในเทศนาจนเปนที่ไพเราะจับใจของผูฟง ทานยอมไดรับความยกยองนับถือ
และสรรเสริญ ตลอดจนลาภสักการะจากประชุมชน ถาพระธรรมกถึกรูปนั้นไรความเขมแข็งแหงจิตแลว
ก็เกิดความยินดีติดในลาภสักการะนั้น ลาภสักการะก็กลายเปนอาวุธประทุษรายทานทันที ตรงกันขามกับ
ผูที่ผานการอบรมจิตมาพอ ยอมไมหวั่นไหวไปกับลาภสักการะเลย สามารถเอาชนะความใคร ความ
อยากที่จะมีชื่อเสียงเกียรติยศได และผูนั้นก็ชื่อวา เปนผูชนะโลกธรรมดวย สวนปญญาบารมีก็คือ การ
สรางความเห็นที่ถูกใหเกิดมีขึ้น ความเห็นที่ถูกคือสัมมาทิฏฐิอันตรงกันขามกับมิจฉาทิฏฐิ อันนี้สำคัญมาก
ความตรัสรูรอดพนจากปวงทุกข ตองอาศัยสัมมาทิฏฐิจึงเกิดมีขึ้นได และสัมมาทิฏฐินี้ เปนแมบทแหง
คุณธรรมทั้งหลายดวย พระโพธิสัตวองคใด บำเพ็ญบารมี ทั้ง ๖ อยางนี้ บริบูรณเต็มที่แลว เมื่อนั้น ก็
ยอมบรรลุแกพระปร
มาภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณได
อัปปมัญญา ๔
อัปปมัญญา ๔ เรียกอีกนัยหนึ่ง วา อัปปมาณหฤทัย
พระโพธิสัตวทั้งหลายตองมี อัปปมัญญา ๔ คือ
เมตตา พระโพธิสัตว ตองใหความสุขแกสรรพสัตว
กรุณา พระโพธิสัตว ตองปลดเปลื้องความทุกขของสรรพสัตว
มุทิตา พระโพธิสัตว ตองยินดีอนุโมทนาเมื่อสัตวพนทุกขและไดสุข

