Page 135 - OB
P. 135
แรงจูงใจ 119
พนักงำนโดยภำพรวมอยู่ในระดับสูง โดยบรรยำกำศขององค์กรด้ำนควำมรู้สึกผูกพันในองค์กร
มีควำมสัมพันธ์กับประสิทธิภำพกำรท ำงำนในระดับปำนกลำง
จำกตัวอย่ำงงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่ำ ประเด็นเรื่องแรงจูงใจยังคงเป็น
ประเด็นที่ได้รับควำมสนใจศึกษำอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพำะกำรวิจัยในรูปแบบกรณีศึกษำ หรือ
กำรวิจัยในเชิงประยุกต์เพื่อน ำไปใช้กับแต่ละองค์กำร อำทิเช่น กำรศึกษำปัจจัยที่มีผลต่อ
แรงจูงใจในกำรปฏิบัติงำนของพนักงำน กำรศึกษำแรงจูงใจในกำรท ำงำนของพนักงำนแต่ละ
ช่วงวัยในองค์กำรว่ำมีควำมแตกต่ำงกันหรือไม่ กำรศึกษำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงตัวแปรเรื่อง
แรงจูงใจกับตัวแปรหรือปัจจัยด้ำนอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ผลกำรศึกษำที่ได้จะท ำให้องค์กำร
น ำไปใช้เป็นแนวทำงในกำรปรับปรุงพัฒนำระบบและกลไกในงำนด้ำนกำรบริหำรทรัพยำกร
มนุษย์ อำทิเช่น กำรบริหำรค่ำตอบแทนและสวัสดิกำรที่สำมำรถดึงดูดจูงใจและดูแลรักษำคน
เก่งให้อยู่กับองค์กำร กำรจัดกิจกรรมหรือกำรสร้ำงบรรยำกำศในกำรท ำงำนให้พนักงำนเกิด
ควำมสุขและสนุกกับกำรท ำงำน เป็นต้น
บทสรุป
แรงจูงใจ หมำยถึง กระบวนกำรที่บุคคลถูกกระตุ้นจำกสิ่งเร้ำ ท ำให้เกิด
แรงผลักดันให้บุคคลแสดงพฤติกรรมออกมำอย่ำงมีทิศทำงและแน่วแน่ เพื่อให้บรรลุเป้ ำหมำย
ที่ต้องกำร โดยกระบวนกำรเกิดแรงจูงใจนั้น มีองค์ประกอบพื้นฐำน 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเกิด
ควำมต้องกำร ขั้นเกิดแรงขับ ขั้นแสดงพฤติกรรม และขั้นบรรลุเป้ ำหมำยหรือควำมต้องกำร
ได้รับกำรตอบสนอง
กำรศึกษำเรื่องแรงจูงใจที่ดีนั้น จ ำเป็นจะต้องมีควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับแนวคิด
ทฤษฎีด้ำนแรงจูงใจต่ำงๆ โดยส ำหรับแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจนั้น จำกกำร
ทบทวนเอกสำรและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องพบว่ำ ได้มีกำรจัดกลุ่มทฤษฎีเรื่องแรงจูงใจออกเป็น
3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มทฤษฎีแรงจูงใจที่เน้นเนื้อหำ ซึ่งศึกษำเพื่อตอบค ำถำมว่ำอะไรที่จะใช้จูงใจ
คน ทฤษฎีในกลุ่มนี้ประกอบด้วย ทฤษฎีล ำดับขั้นควำมต้องกำร ทฤษฎี ERG ทฤษฎีควำม
ต้องกำรของแมคคลีแลนด์ ทฤษฎีสองปัจจัย และทฤษฎีเอ็กซ์ทฤษฎีวำย 2) กลุ่มทฤษฎีแรงจูงใจ
ที่เน้นกระบวนกำร ซึ่งศึกษำเพื่อตอบค ำถำมว่ำจะท ำอย่ำงไรคนถึงจะมีแรงจูงใจ ทฤษฎีในกลุ่ม
นี้ประกอบด้วย ทฤษฎีควำมคำดหวัง ทฤษฎีควำมเท่ำเทียม และทฤษฎีกำรตั้งเป้ ำหมำย และ 3)