Page 66 - บทเรียนการสื่อสาร
P. 66
ผมได้ส่งเด็กน้อยไปตรวจเลือดและฉีดวัคซีนให้ด้วย ซึ่งอาจจะดูโหดร้ายไปสักหน่อยที่
ั
เด็กอายุ 18 เดือนซึ่งเป็นวัยที่เริ่มฝงใจกับความเจ็บปวดที่คุณหมอมอบให้ที่จะต้องเจ็บตัวสอง
ครั้งในวันเดียวกัน
จากนั้นผมก็เริ่มให้ความส าคัญกับคุณแม่และคุณพ่อ คุณแม่เล่าว่าเขาติดเชื้อเอชไอวีมา
นานกว่า 10 ปี และจนถึงวันนี้ระดับซีดี 4 ยังอยู่ในระดับปกติ ปริมาณไวรัสก็ไม่ได้สูงมาก ท าให้
เขามีสุขภาพแข็งแรงมาตลอดโดยยังไม่ได้เริ่มยาต้านเอดส์ ซึ่งต้องถือว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง
ที่เชื้อเอชไอวีในตัวเขาไม่ได้มีฤทธิ์เดชอะไรมากเหมือนกับที่เราเจอในผู้ติดเชื้อทั่วไป ผมมักจะ
ให้ความส าคัญของการคุมก าเนิดของครอบครัวผู้ติดเชื้อที่หลายคนมักคิดเองว่า มีลูกคนเดียวที่
ไม่ติดเชื้อก็ควรจะเพียงพอแล้ว สูติแพทย์หลายคนแนะน าแกมบังคับให้คุณแม่ท าหมันหลังคลอด
ซึ่งแม้จะเป็นเจตนาที่ดี แต่อีกมุมมองหนึ่งอาจเข้าลักษณะริดรอนสิทธิของเขาหรือเป็นการขาด
่
ความเคารพต่อผู้ปวยก็ได้ ผมมีวิธีตั้งค าถามในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ได้ข้อมูลในเรื่อง
ดังกล่าว ในวันนี้ผมไม่ได้เลือกใช้ค าถามท้อปฮิต (top hit = เป็นที่นิยม) ที่ใช้เป็นประจ าซึ่งอาจดู
เชยๆ และตรงไปตรงมาสักหน่อย “ตอนนี้คุณแม่คุมกําเนิดอย่างไรครับ” แล้วก็ให้ค าแนะน าและ
ั
ความช่วยเหลือเพิ่มเติม แต่ในวันนี้ผมเลือกค าถามที่อาจดูจะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปญหาหรือข้อ
ขัดแย้งตามมา แต่ก็ท าให้ผมได้ทราบความจริง ได้เรียนรู้ และได้ช่วยเหลือครอบครัวนี้
“คุณแม่ไม่อยากมีลูกอีกหรือครับ”
“ไม่อยากค่ะ แต่แฟนเขาอยากมีอีกคน”
แม้ผมจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับหมอและคนส่วนใหญ่ในสังคมว่า ลูกที่แข็งแรง (ไม่ติด
เชื้อ) คนเดียวน่าจะเพียงพอและเป็นภาระพอแล้วส าหรับครอบครัวที่มีคุณแม่ที่ติดเชื้อ แต่ก็
พยายามท าความเข้าใจเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้ ในขณะเดียวกันก็นึกทบทวนถึงความ
เป็นไปได้ในการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยเหลือไม่ให้ลูกในครรภ์ต้องติดเชื้อ แต่
เรื่องราวมันซับซ้อนเข้าไปอีกเมื่อผมทราบว่า คุณพ่อของครอบครัวนี้ไม่ได้ติดเชื้อ และหากเขา
้
ต้องการมีลูกอีกคนจริงๆ เราคงต้องให้ความส าคัญในประเด็นปองกันไม่ให้คุณพ่อคนนี้ติดเชื้อ
จากคุณแม่
ผมเริ่มถามหาคุณพ่อและทราบว่าเขามาด้วยและก าลังหาที่จอดรถอยู่ เราคงต้องพูดคุย
กับคุณพ่อคนนี้เพื่อท าความเข้าใจที่ถ่องแท้และให้ความช่วยเหลือ ความสลับซับซ้อนมีเพิ่มเติม
ขึ้นไปอีกเมื่อผมถามค าถามที่ส าคัญอีกค าถามหนึ่งซึ่งผมมักให้ความส าคัญเป็นพิเศษส าหรับ
ครอบครัวที่คุณพ่อไม่ติดเชื้อ
”แล้วคุณพ่อใช้คอนดอมทุกครั้งหรือเปล่าครับ”
“ระยะหลังเขาไม่ค่อยได้ใช้เลยค่ะ”
ผมในเหมือนปุถุชนธรรมดาทั่วไปเช่นเดียวกับหมอและผู้ที่ท างานด้านเอดส์ที่อดจะรู้สึก
โกรธไม่ได้ในพฤติกรรมของคุณพ่อคนนี้ ต้องเตือนสติตัวเองว่า อย่าเพิ่งโมโห เราเป็นห่วงเป็นใย
เขาได้ แต่อารมณ์โกรธอาจจะท าให้เราช่วยเหลือครอบครัวนี้ไม่ได้ดีนัก เพราะไม่พยายามจะท า
ความเข้าใจ หากเลือกใช้การต่อว่าต่อขานหรือการอบรมสั่งสอน เชื่อว่าสัมพันธภาพระหว่างผม
66