Page 67 - มนุษย์
P. 67
ใครสักคนวิ่งชนทั้งสองจนต้องพลัดจากกัน กลิ่นไหม้ลอยปกคลุมทั่วโรงอาหารตาม
ด้วยควันสีเทา ไข่เจียวพยายามวิ่งออกจากโรงอาหารอย่างทุลักทุเล สายตามองหา
ทางออก แต่ควันสีเทาหนาทึบไม่เป็นใจนัก ราวกับกรงเหล็กที่ขังนักโทษไม่ให้ออกไป
“แค่กๆๆ” กลิ่นไหม้กระทบจมูก จนไข่เจียวไอออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
โชคยังคงเข้าข้างไข่เจียวจริงๆ เมื่อเธอเห็นแสงแดดส่องผ่านกลุ่มควันสีเทาหนาทึบ
ไข่เจียวพยายามวิ่งไปข้างหน้าอย่างเหนื่อยล้า ด้านนอกเต็มไปด้วยเปลวไฟลุกลามตาม
ใบไม้แห้งที่ติดไฟปลิวว่อนบริเวณลานกว้าง ไข่เจียวใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งออกมาจน
เกือบประตูทางออกของที่นี่
“ไข่เจียว!” อมยิ้มและเพื่อนอีกหลายคน รวมถึงคุณครูที่ยืนด้านนอกประตู
ตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นไข่เจียวในสภาพหมดแรง เพื่อนพากันพยุงไข่เจียวออกมาอย่าง
รวดเร็วก่อนที่ไฟจะลามมาถึงไข่เจียว
“ผมโทรเรียกต�ารวจแล้วครับ” ยามที่เฝ้าหน้าประตูบอกคุณครู
“ทุกคนจะปลอดภัยใช่มั้ยคะแม่” เป็นปกติที่เด็กจะเรียกคุณครูที่นี่ว่าแม่
“ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ทุกคนจะต้องปลอดภัย” คุณครูปลอบใจ
ไข่เจียวจับมืออมยิ้มพลางมองป้ายโครงเหล็กที่ถูกไฟลุกลามไปพร้อมกับค�าว่า
“สถานสงเคราะห์เด็กก�าพร้า”
ไม่นานนัก รถต�ารวจ รถดับเพลิง รวมถึงรถพยาบาลก็มาถึงสถานสงเคราะห์
สายตาเศร้าหมองของเด็กๆ และแววตาที่ไร้ที่พึ่งนั้น ถูกแสดงผ่านออกมาทางสายตา
ของพวกเขาอย่างชัดเจน ในสถานการณ์แบบนี้ไข่เจียวท�าได้เพียงกระชับมือที่กุมมือ
ของอมยิ้มไว้แทนค�าปลอบใจ
“อมยิ้มดีใจนะ ที่ไข่เจียวไม่เป็นอะไร ตอนที่เราพลัดจากกัน อมยิ้มเป็น
ห่วงไข่เจียวมากเลยรู้มั้ย” ริมฝีปากแห้งส่งยิ้มบางให้กับไข่เจียว สายตาที่บ่งบอกถึง
ความเป็นห่วงเพื่อนนั้นท�าให้ไข่เจียวรับรู้ถึงความรักเพื่อนที่มอบให้เธอ เธอโชคดีที่
มีเพื่อนแบบอมยิ้ม ทันใดนั้นภาพบางอย่างก็ซ้อนขึ้นมาในจินตนาการของไข่เจียว
อย่างรวดเร็ว.....
“แม่คะ หนูไม่อยากมีเพื่อนสกปรกแบบนี้ หนูไม่เอาๆ” เด็กหญิงโวยวายลั่น
เมื่อแม่พาเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
64 สานกล้าวรรณกรรม 3