Page 103 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 103
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๗๕
๒.๒.๒ การก าหนดประเด็นข้อพิพาทโดยศาลเป็นผู้ก าหนด
ตามมาตรา ๑๘๓ วรรคหนึ่ง ในการชี้สองสถานก าหนดประเด็นข้อพิพาท
ให้ศาลตรวจค าคู่ความและฟังค าแถลงของคู่ความตามที่คู่ความแถลงเอง หรือตอบค าถามของศาล
ทั้งนี้เพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาท
การตรวจค าคู่ความก็คือ การตรวจค าฟ้อง ค าให้การหรือค าร้องทั้งหลายที่ยื่น
ต่อศาล เพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความ ทางปฏิบัติก่อนที่ศาลจะออกชี้สองสถานย่อมจะต้องตรวจ
ค าฟ้องและค าให้การอยู่แล้ว มิฉะนั้นก็คงก าหนดประเด็นไม่ถูก แต่เพื่อตัดปัญหาว่าได้มีการ
ชี้สองสถานโดยชอบหรือไม่ ควรจะจดรายงานกระบวนพิจารณาไว้เสียให้ชัดว่าศาลได้ตรวจ
ค าคู่ความแล้ว
การฟังค าแถลงของคู่ความ โดยปกติศาลจะต้องถามให้คู่ความตอบ คู่ความ
มักไม่แถลงเองเพราะค าแถลงของคู่ความที่แถลงเองนั้นอาจไม่ตรงตามประเด็นข้อพิพาท
ที่แท้จริง ดังนั้น ถ้าคู่ความแถลงและศาลเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น แห่งคดีก็ไม่ควรจดไว้
เพราะไม่อาจก าหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทได้
วิธีการก าหนดประเด็นข้อพิพาท
ในการก าหนดประเด็นข้อพิพาท ควรค านึงในข้อต่อไปนี้
๑. ประเด็นข้อพิพาทเกิดจากค าฟ้อง ค าให้การ หากคู่ความไม่สละและ
๒
ไม่รับกันหรือมิใช่กรณีที่ศาลสอบถามแล้ว คู่ความไม่ยอมตอบหรือปฏิเสธข้อเท็จจริงใดโดยไม่
มีเหตุผลอันสมควรแล้ว ศาลก็ต้องจดลงไว้เป็นประเด็นข้อพิพาททั้งหมด
๒. ประเด็นข้อพิพาทมีทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต้องก าหนดไว้
ให้ครบถ้วนทุกข้อ ส่วนภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะตกแก่ฝ่ ายใดหรือฝ่ ายใดมีหน้าที่
น าพยานหลักฐานเข้าสืบก่อนหรือหลังเป็นอีกปัญหาหนึ่ง
๓ . ประเด็นข้อพิพาทจะต้องมีผลกระทบกระเทือนถึงผลแห่งคดี
ถ้าข้อโต้เถียงใดที่ไม่กระทบกระเทือนถึงผลแห่งคดี ศาลไม่พึงก าหนดเป็นประเด็นข้อพิพาท
(ฎีกาที่ ๕๕๖/๒๕๐๑, ๒๙๔๐/๒๕๒๖, ๓๓๒๘/๒๕๓๐)
๔. ประเด็นข้อพิพาทควรก าหนดเป็นรูปปัญหา มีข้อความสั้น ๆ และ
ครอบคลุมปัญหาที่โต้เถียงกัน และใช้ถ้อยค าในกฎหมาย ส่วนการน าสืบของคู่ความก็ต้องอยู่ใน
๒ ค าฟ้องและค าให้การ ดังกล่าวหมายความรวมถึง ค าร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมค าฟ้องที่ศาลอนุญาตแล้ว
ฟ้องแย้ง ค าร้องสอด ค าร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมค าให้การที่ศาลอนุญาตแล้ว และค าให้การแก้ฟ้องแย้ง
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑(๓), (๔)