Page 113 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 113
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๘๕
ตัวอย่าง
- ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๒๗ ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นของแท้จริงและ
ถูกต้อง ได้แก่ เอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ท าขึ้นหรือรับรอง หรือส าเนาอันรับรอง
ถูกต้อง และเอกสารเอกชนที่มีค าพิพากษาแสดงว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของ
คู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันต้องน าสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร
เช่น บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่รับรองเป็นเอกสารมหาชนต้องสันนิษฐาน
ไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องตามป.วิ.พ. มาตรา ๑๒๗ เมื่อผู้ร้องอ้างว่า บัญชีรายชื่อ
ผู้ถือหุ้นไม่ถูกต้องเพราะมีการช าระค่าหุ้นพิพาทเต็มมูลค่าแล้ว ผู้ร้องจึงมีหน้าที่น าสืบให้ได้ความ
(ฎีกาที่ ๘๔๘/๒๕๓๔) หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่ระบุว่าจ าเลยที่ ๑ เป็นห้าง
หุ้นส่วนจ ากัด มีจ าเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นเอกสารมหาชน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า
เป็นของแท้จริงและถูกต้อง จ าเลยที่ ๒ อ้างว่า มิได้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจ าเลยที่ ๑ จ าเลยที่ ๒
ต้องน าสืบถึงความไม่ถูกต้องแท้จริงแห่งเอกสาร (ฎีกาที่ ๓๓๖๙/๒๕๔๑) โฉนดที่ดินเป็นเอกสาร
มหาชนให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง โจทก์และจ าเลยมีชื่อในโฉนดที่ดิน จ าเลยกล่าวอ้างว่า
โจทก์มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนจ าเลย จ าเลยมีภาระการพิสูจน์ (ฎีกาที่ ๑๘๑/๒๕๓๖, ๒๗๘๑/๒๕๓๖,
๔๓๔๕/๒๕๓๖) ส าเนาทะเบียนบ้านเป็นเอกสารมหาชน (ฎีกาที่ ๗๑๑๕/๒๕๔๒) ส าเนาหนังสือสัญญา
ขายฝากที่ดินพิพาทเป็นส าเนาอันรับรองถูกต้องแห่งเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้
ท าขึ้น ซึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๒๗ บัญญัติให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง
จ าเลยซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายัน ต้องน าสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้อง
แห่งเอกสาร (ฎีกาที่ ๑๕๐๑/๒๕๕๔)
- ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๘ บัญญัติว่า “ผู้ว่าจ้างท าของไม่ต้องรับผิดเพื่อความ
เสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างท าการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่
ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ท าหรือในค าสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง”
โจทก์จึงมีหน้าที่จะต้องน าสืบให้ได้ความว่าจ าเลยเป็นผู้ผิดตามมาตรา ๔๒๘ ดังกล่าว
แต่ข้อเท็จจริงตามทางน าสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่าจ าเลยเป็นผู้ผิดในส่วนสั่งให้ท าหรือในค าสั่ง
ที่ตนให้ไว้แก่ผู้รับจ้างอย่างไรและในการเลือกผู้รับจ้างคือบริษัท ฟ. ซึ่งเป็นผู้ตอกเสาเข็มและ
ก่อสร้างฐานรากก็ปรากฏว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษในการก่อสร้างอาคารสูง การที่
จ าเลยว่าจ้างบริษัท ป. เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ ย่อมหมายความว่า จ าเลย
ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือสั่งการในการท างานแต่อย่างใด เพราะเป็นหน้าที่ของบริษัททั้งสอง
เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นโจทก์จะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายเอาจากผู้ก่อสร้างคือบริษัท ฟ.ซึ่งเป็น
ผู้ท าละเมิด จ าเลยไม่ได้กระท าการอย่างหนึ่งอย่างใดอันท าให้จ าเลยต้องรับผิดตาม ป.พ.พ.