Page 110 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 110

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๘๒


                                                -  ก่อนวันสืบพยานจ าเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นค าให้การ ทนายโจทก์และ

                  ทนายจ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ มาศาลร่วมกันแถลงคดีตกลงกันได้เกือบเสร็จสิ้นขอเลื่อนคดีเพื่อ

                  ท ายอม และฝ่ายจ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ ยินดีสละข้อต่อสู้ตามค าให้การทั้งหมด คงเหลือประเด็น

                  ค่าเสียหาย หากนัดหน้าท ายอมไม่ได้ก็ติดใจสู้ประเด็นนี้เพียงประเด็นเดียว ศาลชั้นต้นจดรายงาน

                  กระบวนพิจารณาไว้อ่านให้คู่ความฟังและลงชื่อไว้ รายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าว

                  เป็นพยานหลักฐานเบื้องต้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๔๙ และค าแถลงของทนายจ าเลยที่ ๒ และที่ ๓

                  ถือได้ว่าเป็นข้อตกลงในการสละสิทธิในข้อต่อสู้ตามค าให้การของตนทั้งหมดในประเด็นอื่น

                  รวมทั้งประเด็นที่ว่าจ าเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างในทางการที่จ้างของจ าเลยที่ ๒ ด้วย และกรณีย่อมถือ

                  ได้ว่าจ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ ได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามค าฟ้องของโจทก์แล้วว่าจ าเลยที่ ๑  เป็นลูกจ้าง

                  ในทางการที่จ้างของจ าเลยที่ ๒ จริง โจทก์ไม่ต้องน าสืบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้อีกต่อไป (ฎีกาที่

                  ๙๘๗/๒๕๔๑)


                                                -  ค าให้การรับ  ค าให้การที่ไม่กล่าวถึงในข้อใดที่โจทก์กล่าวอ้าง
                  ย่อมถือว่ารับแล้ว โจทก์ไม่ต้องน าสืบ (ฎีกาที่ ๒๑๘/๒๔๘๘)การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ไม่ว่า


                  ปฏิเสธทั้งสิ้นหรือบางส่วนจ าเลยต้องให้เหตุแห่งการปฏิเสธไว้  เท่ากับจ าเลยจะต้องกล่าวอ้าง

                  ข้อเท็จจริงไว้ในค าให้การเพื่อตั้งเป็นประเด็นข้อพิพาท มิฉะนั้นจ าเลยจะไม่มีประเด็นอะไร

                  ให้น าสืบตามหน้าที่ของจ าเลยได้ จ าเลยทั้งสองให้การปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบ

                  ด้วยกฎหมาย  แต่ไม่ได้ให้เหตุแห่งการปฏิเสธ  อีกทั้งไม่ได้ให้การปฏิเสธฟ้องว่าจ าเลยที่ ๑

                  ไม่ได้ออกเช็ค จ าเลยที่ ๒ ไม่ได้สลักหลังเช็ค และธนาคารผู้จ่ายไม่ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค

                  ต้องถือว่าจ าเลย ทั้งสองยอมรับว่า จ าเลยที่ ๑ ออกเช็ค จ าเลยที่ ๒ สลักหลังเช็คเพื่อช าระหนี้แก่

                  โจทก์ และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ไม่จ าต้องให้คู่ความน าสืบข้อเท็จจริงอื่นใดอีก

                  (ฎีกาที่ ๒๖๔๗/๒๕๓๕) จ าเลยมิได้ให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่  ถือว่าจ าเลยรับ

                  ข้อเท็จจริงนั้นแล้ว (ฎีกาที่ ๑๓๑๐/๒๕๒๐) โจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนจากจ าเลยที่ ๒ และ

                  ที่ ๓ จ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ ให้การต่อสู้คดีว่า  ที่ดินพิพาทเป็นของจ าเลยที่ ๒ และที่ ๓ โดยซื้อมาจาก

                  จ าเลยที่ ๑ โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน  ตามค าให้การดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างว่าจ าเลยที่ ๒

                  และที่ ๓ มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทมาแต่ต้น  จึงไม่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทเรื่องแย่ง

                  การครอบครองที่จะต้องวินิจฉัยเพราะการแย่งการครอบครองตาม  ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๕

                  จะเกิดขึ้นได้ก็แต่เฉพาะในที่ดินของผู้อื่นมิใช่เป็นที่ดินของตนเอง (ฎีกาที่ ๔๕๔/๒๕๕๓, ๓๑๘๗/

                  ๒๕๕๓, ๔๖๕๙/๒๕๕๔)

                                                -  ค าให้การที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่เป็นการเจาะจงว่าจะปฏิเสธข้อใดหรือ

                  คลุมเครือ ไม่แน่นอน เช่น  “นอกจากที่จ าเลยจะให้การต่อไปนี้ขอให้ถือว่าปฏิเสธฟ้อง”
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115