Page 117 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 117
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๘๙
ข้อสังเกต
โจทก์ฟ้องให้จ าเลยช าระหนี้บัตรเครดิต โดยจ าเลยช าระเงินแก่โจทก์แล้ว
๒,๐๐๐ บาท จ าเลยให้การว่าจ าเลยไม่เคยช าระเงิน ๒,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ ภาระการพิสูจน์ว่า
จ าเลยช าระหนี้ให้แก่โจทก์หรือไม่ย่อมตกอยู่แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้าง (ฎีกาที่ ๔๕๒๗/
๒๕๕๐)โจทก์เป็นฝ่ ายกล่าวอ้างว่าโจทก์ได้ช าระเงินตามสัญญากู้ให้แก่ ส. แทนจ าเลย
ที่ ๑ จ าเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ (ฎีกาที่ ๕๗๔๐/๒๕๕๐)
- ฟ้องว่าจ าเลยซื้อของเชื่อไปแล้วไม่ช าระเงิน จ าเลยให้การรับว่าได้ซื้อเชื่อ
ไปจริง แต่ต่อสู้ว่าได้ช าระเงินให้บ้างแล้ว จ าเลยต้องน าสืบ(ฎีกาที่ ๑๑๙/๒๔๗๕) แต่ถ้าซื้อขาย
ธรรมดา เช่น โจทก์ฟ้องว่าจ าเลยซื้อสินค้าแล้วไม่ช าระราคา จ าเลยให้การว่าซื้อสินค้าไปจริงแต่ต่อสู้
ว่าได้ช าระแล้ว โจทก์มีหน้าที่น าสืบเพราะจ าเลยได้ทรัพย์ไปจากผู้ขายแล้ว กรณีย่อมเป็นไปตาม
หลักสัญญาต่างตอบแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๖๙ ถ้าผู้ซื้อยังไม่ช าระเงินผู้ซื้อก็ไม่น่าจะได้รับทรัพย์
ที่ซื้อไป ต่างกับการซื้อเชื่อ
- กรณีผิดสัญญาโจทก์ฟ้องว่าจ าเลยกระท าการอย่างใดอย่างหนึ่ง
อันเป็นการผิดสัญญาหรือจ าเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง และเรียกค่าเสียหาย
หากจ าเลยให้การว่ามิได้ผิดสัญญา โจทก์มีหน้าที่น าสืบ
- หากจ าเลยให้การว่า จ าเลยได้กระท าการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่
โจทก์อ้างจริง แต่ตั้งประเด็นข้อต่อสู้ใหม่ว่า จ าเลยมีอ านาจท าได้โดยไม่ถือว่าเป็นการผิดสัญญา
จ าเลยต้องมีหน้าที่น าสืบ
- ฟ้องขับไล่ อ้างว่าจ าเลยผิดนัดไม่ช าระค่าเช่า จ าเลยต่อสู้ว่าน าค่าเช่า
ไปช าระให้โจทก์แล้ว แต่โจทก์ไม่ยอมรับ เท่ากับจ าเลยรับว่าค้างช าระค่าเช่าจริง จ าเลยมีหน้าที่
น าสืบ (ฎีกาที่ ๖๓๖ - ๖๔๐/๒๕๐๒)
- ฟ้องว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ จ าเลยรับว่าผิดจริงแต่สัญญาเช่าซื้อเป็นโมฆะ
เพราะจ าเลยเป็นคนต่างด้าว จ าเลยส าคัญผิดในสาระส าคัญแห่งนิติกรรม จ าเลยมีหน้าที่น าสืบก่อน
(ฎีกาที่ ๖๙๐/๒๕๑๑)
- เรื่องละเมิดโจทก์กล่าวอ้าง โจทก์ต้องน าสืบ เว้นแต่จะมีข้อสันนิษฐาน
ของกฎหมายเป็นคุณแก่ฝ่ายโจทก์ เช่น ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๓, ๔๓๗
- เรื่องค่าเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหายที่มีมูลมาจากสัญญาหรือละเมิด
มีหลักการพิจารณาอย่างเดียวกัน เว้นแต่ค าให้การจ าเลยมิได้ให้การถึงเรื่องค่าเสียหาย ศาลจะให้
โจทก์ได้รับชดใช้ค่าเสียหายตามที่เสียหายจริง ๆ เท่านั้น ไม่ถือว่าจ าเลยรับ โจทก์มีหน้าที่ต้อง
น าสืบว่าตนได้รับความเสียหายตามจ านวนที่ตนขอมานั้นจริง (ฎีกาที่ ๔๗/๒๔๘๙) ถ้าคดีฟังได้ว่า