Page 119 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 119

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๙๑


                  ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน  โจทก์ทั้งห้าย่อมเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของ

                  กฎหมายตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๓ มิใช่ว่าจ าเลยที่ ๑ เป็นผู้ครอบครองแล้วจ าเลยที่ ๑ จะได้รับ

                  ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตามมาตรา ๑๓๖๙ และ ๑๓๗๐ ภาระการพิสูจน์

                  ในประเด็นข้อนี้จึงตกอยู่แก่จ าเลยที่ ๑ (ฎีกาที่ ๓๔๘๕/๒๕๕๓)โจทก์มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์

                  ในโฉนดที่ดินย่อมได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม ป.พ.พ.  มาตรา ๑๓๗๓

                  ว่าเป็นของโจทก์   เมื่อจ าเลยกล่าวอ้างว่าจ าเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์

                  จึงเป็นหน้าที่ของจ าเลยที่จะต้องน าสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย  ภาระการพิสูจน์จึงตกแก่

                  จ าเลย (ฎีกาที่ ๓๕๕๘/๒๕๕๓, ๔๘๒๓ - ๔๘๒๔/๒๕๕๔, ๑๗๑๐/๒๕๕๕, ๒๑๕๖/๒๕๕๕)

                  ที่ดินตาม น.ส.๓ หรือ น.ส. ๓ ก. เป็นที่ดินที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดินของส านักงานที่ดินอ าเภอ

                  จึงเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนที่ดิน ดังนั้น ข้อสันนิษฐานตามป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๓ ว่า

                  อสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียน


                  เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ย่อมรวมถึงที่ดินที่มี น.ส.๓ หรือ น.ส.๓ ก.ด้วย (ฎีกาที่ ๓๕๖๕/๒๕๓๘)
                  จ าเลยให้การรับว่า โจทก์เป็นเจ้าของรวมในที่ดินตามหนังสือรับรองการท าประโยชน์(น.ส.๓)


                  เลขที่ ๒๔๑ ด้วย โจทก์จึงย่อมได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ.

                  มาตรา ๑๓๕๗ ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน  จ าเลยซึ่งอ้างว่า

                  โจทก์มีส่วนในที่ดินตามหนังสือรับรองการท าประโยชน์ (น.ส.๓)   เลขที่ ๒๔๑ เพียง ๓ งาน

                  จึงมีภาระการพิสูจน์  ที่ศาลชั้นต้นก าหนดให้โจทก์มีภาระการพิสูจน์ ในประเด็นนี้จึงไม่ถูกต้อง

                  ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน  ศาลฎีกามีอ านาจ

                  ยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ (ฎีกาที่ ๙๓๒๔/๒๕๕๓)

                                                - แม้จ าเลยจะมีค าสั่งของศาลชั้นต้นถึงที่สุดแสดงว่าจ าเลยได้

                  กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ตาม  แต่เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดี

                  สามารถพิสูจน์ได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ค าสั่งของศาลชั้นต้นย่อมไม่ผูกพันโจทก์ตาม ป.วิ.พ.

                  มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง (๒) (ฎีกาที่ ๑๙๕๘/๒๕๓๓)

                                                - ที่ดินมีโฉนดที่ดินมีผู้คัดค้านเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้คัดค้าน

                  จึงได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๓ ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง

                  ส่วนบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินพิพาทที่เป็นส่วนควบของที่ดินและเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านตาม

                  ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๔ ด้วย  หากผู้ร้องโต้แย้งว่าบ้านเป็นของบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน

                  ใช้สิทธินั้นปลูกสร้างไว้  จึงไม่ถือว่าเป็นส่วนควบของที่ดินแล้ว ผู้ร้องต้องมีภาระการพิสูจน์ (ฎีกาที่

                  ๔๐๘๔/๒๕๔๕) แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) เป็นหลักฐานที่รับฟังได้แต่เพียงว่า

                  ขณะแจ้งการครอบครอง ผู้แจ้งอ้างว่าที่ดินเป็นของผู้แจ้งมิใช่อสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ใน
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124