Page 118 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 118
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๙๐
โจทก์เสียหาย แต่โจทก์น าสืบให้เห็นจ านวนค่าเสียหายไม่เท่าจ านวนที่เรียกมาหรือไม่อาจแสดง
ค่าเสียหายที่แน่นอนได้ ศาลก็มีอ านาจก าหนดให้ได้ตามที่เห็นสมควร (ฎีกาที่ ๒๕๐/๒๔๘๙)
การฟ้องให้ใช้เงินแก่โจทก์ตามราคาที่ดินขณะฟ้อง ส่วนที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่ดินที่ตกลงท าสัญญา
จะซื้อขายกันนี้เป็นเงินที่โจทก์ขาดประโยชน์เนื่องจากการที่จ าเลยไม่ได้จดทะเบียนโอนที่ดิน
ให้เป็นของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย ถือเป็นการเรียกค่าเสียหายจากการที่จ าเลยไม่ปฏิบัติ
ตามสัญญา แม้จ าเลยไม่ได้ให้การโต้แย้งจ านวนเงินค่าเสียหายดังกล่าว โจทก์ผู้กล่าวอ้างก็มีหน้าที่
น าสืบถึงจ านวนค่าเสียหายของโจทก์ และศาลมีอ านาจพิจารณาก าหนดค่าเสียหายให้ตามที่
สมควร ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ก าหนดค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน ๒๘๐,๐๐๐ บาท จึงไม่เป็น
การวินิจฉัยนอกประเด็นหรือวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาโดยชอบในศาลชั้นต้น
(ฎีกาที่ ๒๒๕/๒๕๓๙)
- ค่าเสียหายกรณีผิดสัญญา ในสัญญาก าหนดเบี้ยปรับไว้ หากจ าเลย
ไม่ต่อสู้เรื่องเบี้ยปรับ โจทก์ไม่ต้องน าสืบ แต่ถ้าเบี้ยปรับสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจ านวน
พอสมควรก็ได้
- เรื่องอ านาจฟ้อง จ าเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอ านาจฟ้อง โจทก์มีหน้าที่น าสืบ
เพราะโจทก์ต้องแสดงให้เห็นว่าโจทก์มีอ านาจฟ้องจ าเลยได้
- กรณีบุคคลภายนอกร้องเข้ามาในคดี เช่น ร้องสอดเป็นคู่ความฝ่ายที่สาม
ร้องขัดทรัพย์ หรือร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้อีกฝ่ายคัดค้าน ผู้ร้องย่อมมีหน้าที่น าสืบ
๒.๓.๘ หน้าที่น าสืบตามหลักกฎหมายเฉพาะเรื่อง
๒.๓.๘.๑ หลักกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครอง
- ถ้าทรัพย์พิพาทเป็นที่ดินมีทะเบียน ผู้มีชื่อในทะเบียนย่อมได้รับ
ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมาย ภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่คู่ความอีกฝ่าย (ป.พ.พ.
มาตรา ๑๓๗๓)
ตัวอย่าง
-โจทก์ฟ้องว่า เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนด จ าเลยเช่าที่ดินพิพาทจาก
โจทก์ขอให้ขับไล่ จ าเลยต่อสู้ว่าครอบครองที่ดินพิพาทมาอย่างเป็นเจ้าของ โจทก์ออกโฉนดที่ดิน
โดยไม่สุจริต ในประเด็นที่ว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทหรือไม่ โจทก์มีชื่อ
ในโฉนดที่ดินพิพาท ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
เมื่อจ าเลยอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท จ าเลยจึงมีหน้าที่น าสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย
(ฎีกาที่ ๑๖๑๖/๒๕๒๒, ๒๕๑๖/๒๕๔๙, ๓๕๕๘/๒๕๕๓, ๗๕๒๙/๒๕๔๔) โจทก์ทั้งห้ามีชื่อเป็น