Page 418 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 418

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๓๙๐


                  สามแสนบาท ก็อยู่ในอ านาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา  หากรวมกันแล้วเกินสามแสนบาท

                  คดีก็ไม่อยู่ในอ านาจศาลแขวง  โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่จ าเลยเป็นผู้สั่งจ่าย ๖ ฉบับ ฉบับละ

                  ๕๕,๐๐๐  บาท เป็นจ านวนเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกรวมดอกเบี้ยด้วย ๓๓๐,๐๐๐  บาท  ดังนี้  คดีไม่อยู่

                  ในอ านาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา (เทียบฎีกาที่  ๒๐๕๔/๒๕๒๕)

                                        (๔) แต่ถ้าโจทก์ฟ้องจ าเลยเรียกเบี้ยปรับตามสัญญาค ้าประกันคนต่างด้าว

                  ๕ ราย โดยจ าเลยท าสัญญาค ้าประกันเป็นรายฉบับ รวม ๕ ฉบับ ส าหรับผู้ค ้าประกันแต่ละราย

                  หากจ าเลยผิดสัญญายอมให้ปรับรายละ ๕๐,๐๐๐บาท ทุนทรัพย์ในคดีจึงแยกออกตามสัญญา

                  ค ้าประกัน แต่ละฉบับ    แม้จะปรับรวมกันมาก็ถือว่าก าหนดค่าปรับภายในวงเงินตามสัญญา

                  ค ้าประกันแต่ละฉบับไม่เกินฉบับละ ๕๐,๐๐๐บาท  คดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม

                  ป.วิ.พ. มาตรา ๒๒๔ แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้

                  ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔๙


                  แม้จ าเลยจะฎีกาในข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อมา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย (เทียบฎีกาที่ ๒๒๗๓/๒๕๒๖)
                  โจทก์ฟ้องว่าจ าเลยเล่นแชร์กับโจทก์รวม ๑๓ วง แล้วผิดสัญญาไม่ช าระค่าแชร์รวมเป็นเงิน


                  ทั้งสิ้น ๗๕๐,๐๐๐  บาท  แต่จ านวนเงินที่ผิดสัญญาแต่ละวงนั้นไม่เกินห้าหมื่นบาท  ดังนี้

                  ทุนทรัพย์ในคดีนี้จึงแยกออกตามสัญญาเล่นแชร์แต่ละวงซึ่งไม่เกินห้าหมื่นบาท  จึงเป็นคดีที่

                  ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๒๔ (เทียบฎีกาที่  ๒๔๖๘/๒๕๒๗)

                                        (๕) ในคดีที่มีฟ้องแย้ง คดีตามฟ้องและฟ้องแย้งจะอุทธรณ์หรือฎีกาได้

                  เพียงใดหรือไม่  ต้องแยกพิจารณา  ไม่ถือเป็นทุนทรัพย์รวมกัน (ฎีกาที่ ๘๘๓/๒๕๑๕, ๖๒๕/

                  ๒๕๓๗)  หากฟ้องแย้งเป็นคดีที่มีค าขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจค านวณเป็นราคาเงินได้

                  ซึ่งไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง แต่เมื่อการวินิจฉัยฟ้องแย้ง ต้องอาศัยข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิม

                  ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้ว ฟ้องแย้งก็ไม่อาจอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ (ฎีกาที่

                  ๔๗๕๔/๒๕๓๘, ๕๗๐/๒๕๔๐) การพิจารณาว่าคดีต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่

                  ต้องพิจารณาฟ้องเดิมและฟ้องแย้งแยกจากกัน

                                        (๖) ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะช าระเสร็จจะน ามารวมค านวณเป็น

                  ทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ (ค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๑๔๖๖/๒๕๓๕ และฎีกาที่ ๑๙๒๖/๒๕๓๗

                  ประชุมใหญ่, ๓๓๖๗/๒๕๓๘) ตลอดจนค่าเสียหายในอนาคตก็จะน ามาค านวณเป็ น

                  ทุนทรัพย์ไม่ได้ (ค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๑๒๙๗/๒๕๓๗,  ๔๗๑๙/ ๒๕๓๘) การขอให้พิจารณา

                  คดีใหม่  ถือตามทุนทรัพย์ ในคดีเดิม (ฎีกาที่ ๕๔๕๐/๒๕๓๖)


                                      ๑.๓.๔ ตรวจว่าผู้ลงลายมือชื่อในอุทธรณ์มีอ านาจหรือไม่  ตัวความหรือทนายความ

                  ผู้มีอ านาจอุทธรณ์ได้ต้องลงชื่อในอุทธรณ์  ให้ตรวจดูใบแต่งทนายความว่ามีอ านาจอุทธรณ์
   413   414   415   416   417   418   419   420   421   422   423