Page 423 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 423

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๓๙๕


                                ศาลมีค าสั่งงดสืบพยานแล้วนัดฟังค าพิพากษาในวันรุ่งขึ้น โดยคู่ความได้รับทราบ

                  ค าสั่งและวันนัดฟังค าพิพากษาในวันนั้นแล้ว  ถือว่าคู่ความดังกล่าวยังมีโอกาสที่จะโต้แย้งค าสั่ง

                  ระหว่างพิจารณาได้ก่อนฟังค าพิพากษา เมื่อมิได้โต้แย้งค าสั่งไว้ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์ค าสั่ง

                  ดังกล่าวได้ (ฎีกาที่ ๓๙๘๕/๒๕๒๘) หรือถ้าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานในวันพุธที่ ๑๒ และนัดฟัง

                  ค าพิพากษาวันศุกร์ที่ ๑๔ เดือนเดียวกัน  ถือว่ามีเวลาพอที่คู่ความจะโต้แย้งค าสั่งนั้นได้ เมื่อมิได้

                  โต้แย้งไว้จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้มีการพิจารณาสืบพยานต่อไปหาได้ไม่ (ฎีกาที่ ๒๐๑๗/๒๕๑๕)


                                ข้อสังเกต

                                ข้อเท็จจริงตามค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒ ๖ ๗๗/๒๕๒๖ เป็ นกรณีที่โจทก์

                  ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นค าร้องแทน แต่เนื่องจากผู้รับมอบฉันทะ

                  จากทนายความไม่มีอ านาจที่จะด าเนินกระบวนพิจารณาแทนตัวความนอกจากที่ได้รับมอบหมาย

                  ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๖๔ ย่อมไม่อยู่ในฐานะที่จะโต้แย้งค าสั่งศาลได้ การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต

                  ให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังค าพิพากษาในวันรุ่งขึ้น จึงถือว่าคู่ความไม่มีโอกาสโต้แย้งค าสั่งได้ทัน

                  ส่วนข้อเท็จจริงตามฎีกาที่ ๓๙๘๕/๒๕๒๘ ทนายจ าเลยเป็นผู้รับทราบค าสั่งศาลชั้นต้นที่ให้

                  งดสืบพยานและนัดฟังค าพิพากษาในวันรุ่งขึ้นด้วยตนเอง ทนายจ าเลยจึงอาจโต้แย้งค าสั่ง

                  ของศาลได้ แต่ไม่ได้โต้แย้งค าสั่งดังกล่าวไว้ทั้งที่มีโอกาสโต้แย้งได้ก่อนฟังค าพิพากษา

                                ค าสั่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้แก้ไขค าฟ้องหรือค าให้การเป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา


                  ต้องโต้แย้งคัดค้านไว้จึงจะอุทธรณ์ฎีกาได้ (ฎีกาที่ ๕๘/๒๕๓๑) แต่ค าสั่งไม่อนุญาตให้แก้ไข
                  ค าฟ้องและค าร้องขอแก้ไขค าให้การแก้ฟ้องแย้ง (ฎีกาที่ ๑๔๘๘/๒๕๒๙) และค าสั่งไม่อนุญาต


                  ให้จ าเลยแก้ไขค าให้การ (ฎีกาที่ ๗๖๕๗/๒๕๔๘) มีผลเป็นการสั่งไม่รับค าคู่ความตาม ป.วิ.พ.

                  มาตรา ๒๒๘ (๓) มิให้ถือว่าเป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา ค าสั่งจ าหน่ายคดีส าหรับจ าเลยบางคน

                  ไม่เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา (ฎีกาที่ ๑๓๖/๒๕๓๐) แม้ศาลได้มีค าพิพากษาหรือค าสั่งชี้ขาด

                  ตัดสินคดีอันเป็นประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีแล้ว  เมื่อจ าเป็นต้องด าเนินกระบวนพิจารณาเพื่อมี

                  ค าสั่งชี้ขาดตามค าขอของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่อีก  ค าสั่งในระหว่างการด าเนินกระบวน

                  พิจารณาดังกล่าวก่อนมีค าสั่งชี้ขาด ค าขอนั้นย่อมเป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา (ฎีกาที่ ๓๓๐๕/

                  ๒๕๓๓,  ๔๐๕๗/๒๕๔๐)

                                      ๑.๓.๘ กรณียื่นอุทธรณ์ค าพิพากษาและค าสั่งระหว่างพิจารณาเข้ามาในฉบับเดียวกัน

                  หากปรากฏว่าค าสั่งระหว่างพิจารณานั้นผู้อุทธรณ์มิได้โต้แย้งค าสั่งไว้ก่อน  ศาลควรจะสั่งดังนี้

                                    “รับอุทธรณ์ของโจทก์ (จ าเลย)เฉพาะข้อ . . . และข้อ . . . ส าเนาให้จ าเลย

                  (โจทก์) แก้ภายใน ๑๕ วัน ให้โจทก์ (จ าเลย) น าส่งหมายนัดและส าเนาอุทธรณ์ โดยให้วางเงิน

                  ค่า    ส่งหมายอย่างช้าภายในวันท าการถัดไป  หากส่งไม่ได้ให้โจทก์(จ าเลย) แถลงเพื่อด าเนินการ
   418   419   420   421   422   423   424   425   426   427   428