Page 8 - คู่มือปฏิบัติงานสำหรับวิสัญญีพยาบาล 2562
P. 8

1)  ความช านาญของผู้ให้ยาระงับความรู้สึก รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับวิธีการและยาที่ใช้
                   2)  ควรน าความต้องการของศัลยแพทย์มาพิจารณาในการเลือกวิธีการให้ยาระงับความรู้สึก โดย วิธีการนั้น
            ต้องไม่มีผลเสียต่อผู้ป่วย

                   3)  ขึ้นกับชนิดของการผ่าตัดรวมทั้งท่าของผู้ป่วยในระหว่างการผ่าตัด ซึ่งต้องมีการวางแผนร่วมกับ
            ศัลยแพทย์
                   4)  ขึ้นกับความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น อายุ ประสบการณ์ของผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดมาก่อน รวมทั้ง

            โรคและปัญหาของผู้ป่วยที่มีอยู่

            การเตรียมและการให้ยาระงับความรู้สึก
                    Premedication

                   ก.  Anticholinergics ได้แก่ atropine ขนาดของยาที่ใช้ 0.01-0.02 มิลลิกรัม/ กิโลกรัม IV Glycopyrorate
            0.1-0.2 มิลลิกรัม IV ในผู้ใหญ่ หรือ 0.004 มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV ในเด็ก
                   ข.  Narcotic ในทางปฏิบัตินิยมใช้ fentanyl มากที่สุด เพราะมีข้อดีคือมีฤทธิ์สั้นและอยู่ในกระแสเลือด
            ประมาณ 30 นาที เหมาะในการท าหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน ท าให้หัวใจเต้นช้าและความดันเลือดลดเพียงเล็กน้อย

            ขนาดที่ใช้ 1-2 ไมโครกรัม/ กิโลกรัม นิยมให้กับผู้ป่วยเกือบทุกรายที่มารับการตรวจผ่าตัด บริเวณกล่องเสียงและ
            หลอดลม
                    Induction and maintenance น าสลบด้วย thiopental sodium หรือ propofol
                    Propofol ขนาดที่ใช้ในการน าสลบคือ 1.5-2.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV ในผู้ป่วยสูงอายุควรใช้ยาเพียง 1

            มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV
                     Propofol นิยมใช้ในระยะ maintenance เนื่องจากยาดมสลบมีโอกาสรั่วไหลออกจากตัวและรอบ ๆ
            เครื่องมือ scope ได้มาก ซึ่งมีผลให้การควบคุมระดับความลึกของการสลบเป็นไปได้ยากและเกิดมลภาวะในห้องผ่าตัด

            นิยมให้ยาแบบ continuous infusion ในขนาด 8-12 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/ชั่วโมง และปรับขนาดยาตาม response
            ของผู้ป่วยจนสิ้นสุดการผ่าตัด
                    ยาหย่อนกล้ามเนื้อ
                      ก. ยา depolarizing muscle relaxant
                        ใช้ succinylcholine (S.ch) ในการตรวจผ่าตัดที่ใช้เวลาไม่นานและไม่มีข้อห้ามในการใช้ แต่อาจพบ

            sinus bradycardia หรือ junctional rhythm ซึ่งพบบ่อยในเด็กหรือผู้ป่วยที่ได้รับยาซ้ าหลายครั้ง สามารถป้องกันได้
            ด้วยการให้ atropine ขนาด 0.015 มิลลิกรัม/ กิโลกรัม IV ก่อนให้ S.ch
                        ขนาดที่ใช้ 1-2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV จะออกฤทธิ์ภายใน 60-90 วินาที และท าให้หยุดหายใจอยู่นาน 4-

            10 นาที ถ้าการตรวจหรือการผ่าตัดยังไม่เสร็จ สามารถให้ยาในขนาดน้อยฉีดเข้าหลอดเลือดด าเป็นครั้งๆ ห่างกันเป็น
            ระยะ โดยให้ในขนาด 1 ใน 3 ของการให้ครั้งแรก ขนาดยาสูงสุดที่ให้ได้ไม่เกิน 7 มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV
                     ข. ยา non depolarizing muscle relaxant มีหลายตัวที่นิยมใช้ในทางปฏิบัติ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ
            ผู้ป่วยแต่ละรายและระยะเวลาการผ่าตัด ซึ่งควรสอบถามศัลยแพทย์ให้ชัดเจนก่อนพิจารณาให้ยา (communication)

                    ยาอื่น ๆ
                    ยาอื่น ๆ ที่ควรมีไว้ได้แก่ dexamethasone นิยมให้เพื่อลดการบวมของ tissue ในทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ
            สายเสียงและหลอดลมคอ ขนาดที่ใช้คือ 0.2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม IV








                                                            5
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13