Page 11 - คู่มือปฏิบัติงานสำหรับวิสัญญีพยาบาล 2562
P. 11

ท่อพลาสติก (IV catheter) โดยให้ปลายจุ่มลงในน้ า เพื่อดูดลมออกจากช่องเยื่อหุ้มปอดจนหมด ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น
            ทันที หายใจสะดวกขึ้น แต่ถ้ามีลมจ านวนมาก เนื่องจากรูที่รั่วเข้าช่องเยื่อหุ้มปอดมีขนาดใหญ่ก็แนะน าให้ใช้วิธีต่อไป
                   3) ใส่ท่อยางระบายลมออกจากช่องเยื่อหุ้มปอด (intercostal drainage)

                    ควรหลีกเลี่ยงการช่วยหายใจด้วยแรงดันบวกผ่านทางท่อช่วยหายใจ เพราะจะท าให้ลมรั่วออกจากถุงลม
            ปอด และเกิดภาวะลมค้างในช่องเยื่อหุ้มปอดมากขึ้น ควรให้ผู้ป่วยหายใจเองเพื่อไม่ให้ลมรั่วออกมามาก ในกรณีการ
            ผ่าตัดที่ยังไม่เสร็จ และใช้ jet ventilation เมื่อเกิดภาวะมีลมในช่องเยื่อหุ้มปอดจ าเป็นต้องใส่ท่อระบายเข้าไปในช่อง

            เยื่อหุ้มปอดเสียก่อน อาจจะข้างเดียวหรือ 2 ข้างแล้วแต่ความจ าเป็นและอาการแสดงของผู้ป่วย แล้วจึงช่วยหายใจ
            ด้วยแรงดันบวกต่อไป ขณะเดียวกันต้องเฝ้าระวังภาวะผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะขาดออกซิเจนหรือ
            คาร์บอนไดออกไซด์คั่ง เพื่อให้การแก้ไขหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที
                       ข. การบาดเจ็บบริเวณกล่องเสียง เนื่องจากการช่วยหายใจด้วยออกซิเจนแรงดันสูง ๆ ผ่านเครื่อง jet

            ventilation อาจท าให้ปลายท่อน าก๊าซซึ่งสอดอยู่ระหว่างสายเสียงสะบัดไปมาท าให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะ
            ข้างเคียง อาจท าให้เกิด laryngeal edema ได้ มีเลือดออกและเกิดการบาดเจ็บตามมาได้
                    ดังนั้นในการควบคุมการหายใจด้วย jet ventilation จึงควรตั้งแรงดันให้เหมาะสมส าหรับผู้ป่วยแต่ละราย
            และจัดวางท่อช่วยหายใจให้เหมาะสมและอยู่ในต าแหน่งที่ถูกต้อง

                       ค. ปัญหาอื่นที่อาจจะพบในระหว่างการดมยาสลบ คือ
                    การติดไฟในทางเดินหายใจจากแสง laser ที่โดนกับวัสดุที่ไหม้ไฟ เช่น cuff ของ laser endotracheal tube
            เศษชิ้นเนื้อที่แห้ง เป็นต้น
                    การป้องกัน ใช้ส าลีชุบ NSS ให้เปียกชุ่มอยู่เสมอ บังไว้ที่ cuff ของ laser endotracheal tube และควร

            inflate cuff ด้วย NSS เพราะถ้าแสง laser ยิงถูก cuff จะท าให้ NSS ไหลออกมาช่วยดับไฟได้
                    ถ้ามีการไหม้ไฟเกิดขึ้นในทางเดินหายใจขณะดมยาสลบ สิ่งที่ควรท าคือ ศัลยแพทย์ควรที่จะเอาสิ่งที่ไหม้ไฟ
            ออกมาโดยเร็วที่สุดพร้อมทั้งบอกวิสัญญีแพทย์ ๆ จะหยุด ventilation และ disconnect breathing circuit ออก

            จาก machine ชั่วคราว ซึ่งจะท าให้สามารถขจัดเปลวไฟและความร้อนที่อยู่ในท่อช่วยหายใจที่ไหม้ และจะเป็นการ
            หยุดการไหลของอากาศที่มีจ านวนออกซิเจนสูงได้
                    หลังจากที่เอาท่อช่วยหายใจที่ไหม้ไฟออกหมดและไฟดับแล้ว ควร ventilate ผู้ป่วยด้วย 100 % O2 mask
            และด าเนินการสลบต่อ ศัลยแพทย์จะท า direct laryngoscopy และ rigid bronchoscopy เพื่อตรวจประเมินความ
            เสียหายของทางเดินหายใจและ remove debris ที่อาจจะมีเหลืออยู่ ถ้าการท าลายมีมากอาจต้องพิจารณาใส่ท่อช่วย

            หายใจคาไว้ก่อนหรือเจาะคอผู้ป่วย
                      ง. Postoperative complication อาจพบปัญหาต่อไปนี้
                   1) Airway edema จากการที่มี lesion มาก อาจท าให้มีการบวมของทางเดินหายใจ ซึ่งควรให้

                   dexamethasone (0.2 mg/ kg IV) หรือพิจารณาให้ adrenaline/ ephedrine พ่น และใส่ท่อช่วยหายใจคา
                   ไว้ก่อน หลังจาก airway หายบวมแล้วจึงพิจารณา off ETT
                   2) Awareness อาจเกิดได้ถ้าระงับความรู้สึกด้วย jet ventilation

















                                                            8
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16