Page 103 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 103

ส่วนที่ ๓                                                                            หน้า ๙๑



                  ี
               เพยงอย่างเดียว ดังนั้น ในการขอรับบริจาคเจ้าหน้าที่จะแจ้งความต้องการด้านอื่น เช่น กางเกงใน หรือ
               ผ้าอ้อมส าเร็จรูป (แพมเพิส) เพื่อให้ผู้บริจาคทราบด้วย
                                                               ื้
                             ทั้งนี้ ในด้านภารกิจเชิงรุกในการลงพนที่ไปดูแลกลุ่มเป้าหมายภายนอกสถานสงเคราะห์
               หรือสถานคุ้มครอง ซึ่งเป็นบทบาทเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ พัฒนา หรือป้องกันปัญหาต่าง ๆ ก่อนที่
               กลุ่มเป้าหมายจะเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ หรือสถานคุ้มครอง พบปัญหาเกี่ยวกับเด็กนักเรียนที่ครอบครัว
               ยากจนท าให้ไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัย ท าให้เด็กบางคนต้องหยุดเรียนในวันที่มีประจ าเดือน ในการแก้ไข

                                                                             ื้
               ปัญหาในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์ หรือสถานคุ้มครองที่ลงพนที่ตรวจเยี่ยมตามบ้าน จึงมีโครงการ
               ช่วยเหลือด้วยการน าผ้าอนามัยที่ได้รับบริจาคไปให้แก่ครอบครัวที่มีความจ าเป็นต้องใช้ด้วยเสมอ ผู้แทนจาก

               กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผ้าอนามัยที่ได้รับบริจาคมามีราคาเฉลี่ยแผ่นละ ๕ บาท
               ทั้งนี้ ในกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ มีความจ าเป็นต้องใช้ผ้าอ้อมส าเร็จรูป ซึ่งมีราคาสูงกว่า
               ผ้าอนามัยในช่วงที่มีประจ าเดือนร่วมด้วยจึงท าให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ซึ่งสถานสงเคราะห์ และสถานคุ้มครอง

                                               ื่
               สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณเพอดูแลในเรื่องดังกล่าวได้อยู่แล้ว เพยงแต่ในบางครั้งที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
                                                                              ี
               ปริมาณที่ไม่เพียงพอจึงจะแก้ไขด้วยการขอรับบริจาคจากบุคคลภายนอก
                             ในส่วนของประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการผ้าอนามัยนั้น ผู้แทนกรมพฒนาสังคม
                                                                                                    ั
               และสวัสดิการเห็นว่า ควรจัดให้มีการดูแลในเรื่องดังกล่าวอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางที่เป็น
               คนเร่ร่อน หรือผู้ที่มีปัญหาความยากจน รัฐควรก าหนดมาตรการส่งเสริมเป็นพเศษให้บุคคลกลุ่มดังกล่าว
                                                                                     ิ
               สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้โดยง่าย รวมทั้งกรณีของเด็กนักเรียนที่ครอบครัวยากจน ที่กระทรวงศึกษาควรให้การ
               สนับสนุนผ้าอนามัยแก่เด็กนักเรียนเพอให้สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้ง่ายขึ้น โดยผู้แทนจากกรมพฒนาสังคม
                                                ื่
                                                                                                   ั
               และสวัสดิการ เห็นด้วยกับการทดลองจัดสวัสดิการผ้าอนามัย โดยเริ่มจากกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้
               อย่างเช่นกลุ่มเด็กนักเรียนที่ยากจน และกลุ่มคนเร่ร่อนที่อยู่ตามที่สาธารณะที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพเศษ
                                                                                                         ิ
                                                                                                   ั
               ซึ่งผู้แทนจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการรับที่จะน าเรื่องดังกล่าวไปหารือกับกระทรวงการพฒนาสังคม
               และความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงประเด็นความเป็นไปได้ของการน าภาษีบาปไปใช้สนับสนุนด้านการจัด
               สวัสดิการ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับความเสมอภาคระหว่างเพศ เป็นภารกิจของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว

               ที่จะสามารถให้ค าตอบได้อย่างชัดเจน
                           ๒. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

                             คณะกรรมาธิการได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางในการดูแลช่วยเหลือเด็ก
               นักเรียนที่ครอบครัวมีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้อย่างทั่วถึง โดยผู้แทนส านักงานคณะกรรมการ
               การศึกษาขั้นพื้นฐานได้ชี้แจงให้ข้อมูล โดยสรุปดังนี้

                             ปัจจุบันเด็กนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนฐาน
                                                                                                       ื้
               มีจ านวนประมาณ ๒.๒ ล้านคน โดยเด็กนักเรียนผู้หญิงที่อยู่ในวัยมีประจ าเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายส าหรับ

               ซื้อผ้าอนามัยอย่างน้อยประมาณเดือนละ ๔๐ – ๕๐ บาท ซึ่งภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะตกแก่ผู้ปกครองของเด็ก
               ดังนั้น หากรัฐบาลมีการจัดสวัสดิการผ้าอนามัยให้แก่เด็กนักเรียนย่อมเป็นสิ่งที่ดีและจะเป็นประโยชน์แก่เด็ก
               นักเรียนหญิง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารหรือขาดโอกาส ครอบครัวที่มีรายได้น้อย โดยการ

               ด าเนินการอาจจะท าเป็นการก าหนดราคาผ้าอนามัยราคาถูกส าหรับเด็กนักเรียนและนักศึกษา ดังเช่น
               โครงการที่ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มีการด าเนินการแล้ว เช่น โครงการนมโรงเรียน

               โครงการอาหารกลางวัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กนักเรียนทุกคนทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
               ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108