Page 53 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 53

ส่วนที่ ๓                                                                            หน้า ๔๑



                    พิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการถอนข้อสงวนในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อที่ ๒๒


                                                                                                 ั
                                                                                  ิ
                           คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พการ กลุ่มชาติพนธุ์ และผู้มี
               ความหลากหลายทางเพศ ได้พจารณาเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ ร่วมกับองค์กร
                                           ิ
                                                                                                  ื่
               เครือข่าย (The Coalition for the Rights of Refugees and Stateless Persons : CRSP) เพอสนับสนุน
                                                                                          ิ
               เรื่องการถอนข้อสงวนข้อ ๒๒ ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งคณะกรรมาธิการได้พจารณาเรื่องดังกล่าว
               อย่างระมัดระวัง เพราะเห็นว่าบางประเด็นอยู่บนพื้นฐานที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐด าเนินการอยู่เพื่อผลประโยชน์
               ของประเทศชาติ

                           ประเทศไทยเป็นเพยงประเทศเดียวในจ านวน ๑๙๖ ประเทศที่เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วย
                                             ี
               สิทธิเด็ก ที่ยังไม่ถอนข้อสงวนข้อที่ ๒๒ เช่นรัฐภาคีอื่น ๆ ที่ได้เคยตั้งข้อสงวน ได้ถอนข้อสงวนดังกล่าวแล้ว

               โดยที่คณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก แนะน าให้ประเทศไทยพจารณาถอนข้อสงวนข้อ ๒๒ ได้ระบุ
                                                                             ิ
               ในข้อสังเกตเชิงสรุป (Concluding observations ) ต่อรายงานประเทศไทย ครั้งที่ ๑ ภายใต้ข้อ ๔๔ แห่ง
               อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยระบุว่า “คณะกรรมการสนับสนุนให้รัฐภาคีพจารณาความเป็นไปได้ในการ
                                                                                   ิ
               ทบทวนการถอนข้อสงวน” และข้อสังเกตเชิงสรุป (Concluding observations ) ประเทศไทยได้ท าการ
               ถอนข้อสงวนข้อที่ ๗ เรื่องสิทธิในการจดทะเบียนการเกิด มีผลในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ แต่ยังคง

               ข้อสงวนข้อที่ ๒๒ เอาไว้ และระบุในรายงานครั้งต่อ ๆ มา อีกว่า “คณะกรรมการแนะน าให้รัฐภาคีถอนข้อสงวน
               ในข้อ ๒๒ และด าเนินมาตรการที่จ าเป็นทั้งปวงเพื่อคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือผู้แสวงหาการลี้ภัยและผู้ลี้ภัย
               ที่เป็นเด็ก” ซึ่งประเทศไทยมีมาตรการภายในเพื่อบริหารจัดการและคุ้มครองเด็กหรือบุคคลที่อยู่ในสถานะ

               ผู้ลี้ภัยอยู่แล้ว อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความยอมรับของรัฐบาลไทยต่อการมีตัวตัวของเด็กผู้ลี้ภัย
               มาตรการหรือกฎหมายภายในประเทศ

                           การภาคยานุวัติสารเพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของประเทศไทย ได้ใช้ถ้อยค าว่า
               “การใช้บังคับในข้อที่ ๒๒ ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ให้อยู่ภายใต้กฎหมายภายใน กฎ ระเบียบ
                                                                                                        ั
               ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และทางปฏิบัติของประเทศไทย” ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองเด็กที่ขอสถานะผู้ลี้ภยนั้น
               คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ (United Nations Committee on the Right of the
                                                                                                 ่
               Child: CRC) ได้มีข้อวินิจฉัย (General comments) เกี่ยวกับการดูแลเด็กที่พลัดพรากจากพอแม่หรือไม่มี
               ผู้ปกครองมาด้วยนอกประเทศที่เป็นภูมิล าเนา (Treatment of unaccompanied and separated children
               outside their country of origin) ไว้ในข้อ (f) ว่ารัฐจะต้องให้ความเคารพต่อหลักการ Non - refoulement
               หรือหลักการห้ามผลักดันกลับไปเผชิญอันตราย อีกทั้งยังปรากฏในข้อที่ ๓๓ ของอนุสัญญาว่าด้วย

               สถานภาพผู้ลี้ภัย (The 1951 Refugee Convention) ซึ่งประเทศไทยไม่ได้เข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาฉบับ
               ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลักการ Non - refoulement ได้มีสถานะเป็นกฎหมายประเพณีระหว่างประเทศ

               (Customary International Law) และกฎหมายบังคับเด็ดขาด (Peremptory norms หรือ Jus Cogens)
               ที่เราไม่สามารถที่จะละเมิดพันธกรณีได้ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด ๆ และยังเป็นไปตามข้อที่ ๓ ของอนุสัญญาว่าด้วย
               การต่อต้านการทรมาน และการกระท าอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ ายีศักดิ์ศรี (Convention

               Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment: CAT)
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58