Page 49 - Psychology
P. 49

หน้ า  | 46

               บุคคลไม่เพียงแต่สังเกตเท่านั้นแต่ลอกเลียนแบบอย่างพฤติกรรมอย่างจงใจจากตัวแบบนั้นการเรียนรู้ด้วยการ
               สังเกตสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่จําเป็นต้องมีแรงเสริมพฤติกรรมใดๆ  อย่างไรก็ตามเห็นแบบจะเลียนแบบ

               พฤติกรรมที่มีอิทธิพลต่อเขาหรือไม่ยังขึ้นอยู่กับว่าพฤติกรรมนั้นก่อให้เกิดผลบางอย่างตามมาแก่เขาหรือไม่เช่น
               เด็กชายเล็กๆอาจเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายจากการสังเกตพฤติกรรมการเล่นตุ๊กตาของน้องสาวแต่เขาไม่กล้าเล่น
               ตุ๊กตาเช่นเดียวกับที่เห็นน้องสาวเล่น  เพราะบิดามารดาจะว่ากล่าวตอกย้ําบ่อยครั้งว่า  “ตุ๊กตาไม่ใช่ของเล่น
               ของเด็กผู้ชาย”  เป็นต้น

                      หลักการเรียนรู้  มีลักษณะพิเศษ 3 ประการคือ
                      1.  สาเหตุพฤติกรรมเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเรียนรู้ตามภูมิหลังของแต่ละบุคคล  ตัวอย่างเช่น
               อาชญากรยิงตํารวจอาจเป็นเพราะเขาเคยประสบกับตํารวจที่หยาบคาย  ก้าวร้าว และไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมา
               ก่อนบางทีอาชญากรอาจเคยได้รับแรงเสริมพฤติกรรมจากการตอบโต้สถานการณ์ความขัดแย้งด้วยความรุนแรง

               แล้วแก้ปัญหาได้  ขณะที่เมื่อไม่ใช้ความรุนแรงในสถานการณ์ทํานองเดียวกันแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้หรือ
               บางทีบิดาของเขาอาจจะทําต่อเขาด้วยวิธีการที่รุนแรงเขาจึงเรียนรู้ที่จะเรียนแบบและกระทําพฤติกรรมตาม
               อย่างตัวแบบที่ก้าวร้าวรุนแรงก็เป็นได้  นักจิตวิทยาการเรียนรู้ให้ความสนใจกับร่องรอยของประสบการณ์ใน
               อดีตอย่างมากขณะที่สนใจทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันน้อยกว่า

                      2.  หลักการเรียนรู้มีแนวโน้มที่จะสนใจสาเหตุพฤติกรรมที่เกิดจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายนอก
               มากกว่าการแปลความหมายเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล  และเชื่อในวิธีการที่ผู้คนตอบสนองต่อการกระทําของ
               คนอื่นๆๆและการเรียนแบบตัวแบบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยภายนอกของแต่ละบุคคล

                      3.  หลักการเรียนรู้มีเป้าหมายที่จะอธิบายพฤติกรรมที่แสดงออก  (overt  behavior) มากกว่าที่จะ
               อธิบายถึงเรื่องของจิตใจ หรือผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์  (คือพยายามอธิบายว่าทําไมอาชญากรจึงยิงตํารวจ)มากกว่า
               สนใจว่าเป็นเพราะสาเหตุจากอีกฝ่ายหนึ่งหรือไม่  (คือเป็นเพราะเขารับรู้ว่าตํารวจกําลังจะยิงเขาเขาจึงป้องกัน

               ตนเอง)หรือสนใจอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรม  (คืออาชญากรกําลังโกรธหรือกลัว) เป็นต้น

               2.  ทฤษฎีการรับรู้ (Cognitive Theories)
                      แนวคิดสําคัญสําหรับทฤษฎีการรับรู้คือเชื่อว่าพฤติกรรมมนุษย์ขั้นกับวิธีการที่เขารับรู้สถานการณ์ทาง

               สังคม โดยบุคคลจะจัดระบบการรับรู้ ความคิด ความเชื่อของตนเองโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไป
               และสถานการณ์ที่มีความหมาย ไม่ว่าสถานการณ์จะยุ่งเหยิงแค่ไหน ผู้คนจะสามารถสั่งการและจัดระบบ
               การรับรู้ ความคิด และความเชื่อของตนได้ ซึ่งการจัดระบบ การรับรู้ และการตีความความเป็นไปของโลก

               เหล่านี้ล้วนมีนัยสําคัญเป็นผลกระทบต่อพฤติกรรมของบุคคลนั้นในสถานการณ์ต่าง ๆ
                      เลวิน อธิบายการรับรู้ตามแนวคิดของกลุ่มเกสตอลท์ในเชิงจิตวิทยาสังคมว่าเป็น “สนามทางจิตวิทยา
               ของบุคคล” (Person’s Psychological Field) ซึ่งพฤติกรมของบุคคลนั้นได้รับผลกระทบจากบุคลิกภาพ
               ส่วนตัว (เช่น ความสามารถ บุคลิกภาพ พันธุกรรม) และสังคมแวดล้อมตามที่เขารับรู้
                      นอกจากนี้ ผู้คนยังรับรู้บางสิ่งโดดเด่นออกมาเป็นภาพ (Figure) และบางส่วนเป็นเพียงพื้นหรือฉาก

               หลัง (Ground)
                      งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า สาเหตุของการให้เหตุผล (Attribution) และวิธีการที่ผู้คนใช้ข้อมูลข่าวสารใน
               การพิจารณาสาเหตุของพฤติกรรมสังคมต่าง ๆ เช่น ในกลุ่ม ในสถานการณ์สังคม ฯลฯ เพื่อศึกษาแง่มุมต่าง ๆ

               เป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่ง ซึ่งได้แก่
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54