Page 65 - STRATEGIES FOR BUDDHISM PROPAGATION OF OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHUS (PH.D.)
P. 65
๔๗
๒.๔.๔ การบัญญัติพระธรรมวินัย : การวางแผน
สมัยที่พระพุทธเจ้าเผยแผ่พระศาสนา เพื่อให้เกิดมีผลที่เป็นประโยชน์แก่หมู่มนุษย์ใน
สังคม โดยทรงบัญญัติระเบียบในหมู่มนุษย์ จึงเรียกว่า “วินัย” ค าว่า วินัย มีความหมายเป็น ๓ นัย
๑๐๖
ได้แก่ (๑) วินัย หมายถึงนัยต่าง ๆ เพราะมีปาติโมกข์ ๒ คือ ภิกขุปาติโมกข์และภิกขุนีปาติโมกข์
มีวิภังค์ ๒ คือ ภิกขุวิภังค์และภิกขุนีวิภังค์ และมีอาบัติ ๗ กองเป็นต้น (๒) วินัย หมายถึง นัย เพราะมี
พระอนุบัญญัติเพิ่มเติมให้สิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้แล้วมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น หรือผ่อนผันให้
เหมาะสมแก่การกระท าความผิดหรือการล่วงละเมิด (๓) วินัย หมายถึง กฎหรือข้อบังคับส าหรับ
ฝึกอบรมกายและวาจา เพราะเป็นเครื่องป้องกันการประพฤติไม่เหมาะสมทางกายและวาจา ฉะนั้น
ค าว่า วินัย จึงมีค าที่เป็นไวพจน์หรือค าที่เขียนต่างกัน แต่มีความหมายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน
มากอยู่ ๓ ค า คือศีล พระบัญญัติ สิกขาบท แต่รวมความหมายแล้วก็ใช้ในความหมายเดียวกัน
คือ เป็นข้อที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการให้การศึกษาและการปกครองสงฆ์
และในที่นี้มุ่งเอาความหมายที่เป็นวินัยที่ใช้ส าหรับพระภิกษุ
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงก่อตั้งองค์กรคณะสงฆ์แรก ๆ ยังไม่ได้บัญญัติพระวินัย ทั้งที่เป็น
ปาฏิโมกข์และอภิสมาจาร พระภิกษุเมื่อเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็ถือปฏิบัติตามรูปแบบที่เป็น
ธรรมเนียมของพระพุทธเจ้า ว่าด้วยหลักการที่เป็นทั้งค าสั่ง และค าสอนรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งจัดเป็นจารีต
ศีล เรียกว่า โอวาทปาฏิโมกข์ มีใจความว่า “การไม่ท าบาปทั้งปวง การท ากุศลให้ถึงพร้อม การท าจิต
ของตนให้ผ่องแผ้ว นี้คือ ค าสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย”
๑๐๗
หากมองในแง่ของเหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทนั้น จะเห็นว่าพระองค์ไม่ได้
บัญญัติไว้ล่วงหน้าเหมือนกับกฎหมายโดยทั่วไป แต่ทรงค านึงถึงกาลเวลาและความเหมาะสมของ
เหตุการณ์เป็นหลัก และพุทธวิธีในการบัญญัติสิกขาบทก็ประกอบไปด้วย (๑) เมื่อมีเรื่องไม่ดีไม่งาม
เกิดขึ้น ทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์ (๒) ตรัสถามภิกษุผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (๓) ทรงต าหนิ
๑๐๘
ภิกษุที่ก่อเรื่อง (๔) ชี้โทษแห่งการล่วงละเมิด
เมื่อพระพุทธเจ้าจะทรงบัญญัติพระวินัย เพื่อใช้ในการปกครององค์กรคณะสงฆ์
ทรงค านึงถึงเหตุปัจจัยต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบหลัก ดังที่พระพุทธองค์ตรัสกับพระสารีบุตร เมื่อ
พระสารีบุตรได้ทูลขอร้องให้ทรงบัญญัติสิกขาบทและแสดงปาติโมกข์แก่พระสาวก อันจะเป็นเหตุให้
พรหมจรรย์ด ารงอยู่ได้นาน ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสว่าเวลาและเหตุที่จะทรงบัญญัติสิกขาบทนั้นจะต้อง
ประกอบไปด้วยปัจจัย ๕ ประการ ได้แก่ (๑) สังคมสงฆ์ตั้งได้เป็นเวลานานพอสมควร (๒) สังคมสงฆ์
๑๐๖ แสวง อุดมศรี, พระวินัยปิฎก ๑ ว่าด้วยมหาวิภังค์หรือภิกขุนีวิภังค์, (กรุงเทพมหานคร: ประยูร
วงศ์ พริ้นติ้ง, ๒๕๔๖), หน้า ๖-๗.
๑๐๗ ที.ม. (ไทย) ๑๐/๑๘๓–๑๘๕/๙๐-๙๑.
๑๐๘ วิ.มหา. (ไทย) ๑/๓๙/๒๗.