Page 63 - STRATEGIES FOR BUDDHISM PROPAGATION OF OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHUS (PH.D.)
P. 63
๔๕
ล าบากมาก จึงตรัสว่าภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ท่านทั้งหลายนั่นแหละจงให้บรรพชา จงให้อุปสมบท
๙๘
ในทิศนั้น ๆ ในชนบทนั้น ๆ เถิด
จากพระพุทธพจน์นี้ จะเห็นว่า พระพุทธองค์ทรงมีพระพุทธประสงค์โดยอนุญาตให้บวชได้
ด้วยระบบใหม่ที่พระเถระรูปอื่น ๆ ก็สามารถให้การบวชได้ ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อน ากุลบุตรเพื่อเข้า
มาบวชกับพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวอีกต่อไป ระบบการบวชใหม่นี้เป็นระบบที่ใช้ได้ทั่วไปเป็นการติด
อาวุธในการเผยแผ่พระศาสนาให้กับเหล่าพระสาวก ระบบนี้เรียกว่า ไตรสรณคมน์ แม้พระพุทธเจ้าจะ
ทรงกระจายพุทธประสงค์ไปยังพระเถระให้สามารถเป็นพระอุปัชฌาย์ได้ แต่เมื่อมีพระภิกษุจ านวน
มากเข้ามาบวชแล้ว พระอุปัชฌาย์ก็มีจ านวนน้อย ไม่สามารถควบคุมดูแลพระนวกะให้อยู่ในกรอบของ
พระธรรมวินัยได้ เนื่องด้วยไม่มีใครว่ากล่าวเหล่าภิกษุที่ประพฤติไม่งาม ไม่เรียบร้อย ทั้งการนุ่งห่ม
มารยาท เที่ยวบิณฑบาต ไม่มีใครคอยตักเตือน พร่ าสอน จึงทรงตั้งพระอุปัชฌาย์ เพื่อให้ทั้งสองฝ่าย
๙๙
ได้เข้าไปตั้งจิตคุ้นเคยสนิทสนมในสัทธิวิหาริกฉันบุตร และเพื่อให้เข้าไปตั้งจิตคุ้นเคยสนิทสนมใน
พระอุปัชฌาย์ฉันบิดา ต่อกันและกัน เริ่มแรกนั้นไม่ได้ทรงแต่งตั้งพระอุปัชฌาย์เป็นหลักการเอาไว้
๑๐๐
เพียงแต่ทรงอนุญาตให้แสวงหาพระอุปัชฌาย์เอาเอง โดยตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย สัทธิวิหาริก พึงถือ
อุปัชฌาย์อย่างนี้ พึงห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้า นั่งกระโหย่งประนมมือกล่าวอย่างนี้ว่า
ท่านผู้เจริญ ท่านจงเป็นอุปัชฌาย์ของข้าพเจ้าเถิด” เพียงเท่านี้ก็ส าเร็จประโยชน์ได้ แต่แล้วการ
๑๐๑
อุปสมบทด้วยระบบไตรสรณคมน์ ได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง คือ ถ้าบรรดาภิกษุไม่
ประสงค์จะให้บวชก็เกิดเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา ตัดสินไม่ได้ อุปัชฌาย์ไม่รับบวช พระองค์จึงต้องหา
ทางออกให้ ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้น ดังเช่น กรณีของราธะพราหมณ์แม้บรรดาภิกษุไม่อนุญาตให้บวช
แต่เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่าใครระลึกถึงความดีของพราหมณ์นั้นได้บ้าง พระสารีบุตรกราบทูลว่าเมื่อข้า
พระองค์เที่ยวบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์นี้ พราหมณ์นั้นได้ถวายภิกษาทัพพีหนึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า
ดีละ ๆ สารีบุตร สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้กตัญญูกตเวที ถ้าเช่นนั้น เธอจงให้พราหมณ์นั้นบรรพชา
๑๐๒
อุปสมบทเถิด ซึ่งเกิดขึ้นเพราะพราหมณ์ผู้นี้มีอุปนิสัยแห่งการบรรลุธรรมได้
ในเวลาต่อมา พระองค์ประกาศห้ามการอุปสมบทด้วยไตรสรณคมน์ และให้ใช้อุปสมบท
๑๐๓
ด้วยญัตติจตุตถกรรมแทน ซึ่งเป็นระบบการให้อุปสมบทที่ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน อันแสดงให้เห็น
ถึงการส่งมอบพุทธบัญญัติของพระองค์สู่คณะสงฆ์อย่างแท้จริง ส่วนระบบไตรสรณคมน์นั้น ใช้ส าหรับ
๙๘ วิ.ม. (ไทย) ๔/๔๒/๓๔.
๙๙ วิ.ม. (ไทย) ๔/๗๙/๖๔.
๑๐๐ วิ.ม. (ไทย) ๔/๘๑/๖๕.
๑๐๑ วิ.ม. (ไทย) ๔/๘๑-๘๒/๖๕.
๑๐๒ วิ.ม. (ไทย) ๔/๙๗/๖๙.
๑๐๓ วิ.ม. (ไทย) ๔/๙๘/๖๙-๗๐.