Page 71 - STRATEGIES FOR BUDDHISM PROPAGATION OF OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHUS (PH.D.)
P. 71
๕๓
๑๒๑
ครุธรรม ๘ ประการ ซึ่งถ่ายทอดสู่ท่านโดยพระอานนท์ ท่านมีคุณสมบัติส าคัญมากข้อหนึ่งที่
เรียกว่าพหูสูตคือมีความรู้ในพระธรรมเทศนาซึ่งพระพุทธองค์ทรงเทศนาแก่ผู้ใดก็ตามที่ท่านไม่ได้อยู่
ณ ที่นั้น ท่านขอพรให้ทรงแสดงธรรมแก่ท่านอีกครั้ง จึงท าให้ท่านมีความรู้เกี่ยวกับพระธรรมค าสอน
ของพระพุทธองค์
จะเห็นได้ว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสาวก กล่าวคือการจาริกไปในที่ต่าง ๆ
ของพระสาวก ที่พระพุทธเจ้าทรงส่งไปเพื่อประโยชน์สุขของชนเป็นอันมาก ตามความเชี่ยวชาญของ
แต่ละท่าน ตัวอย่างพระสาวกที่ยกมานี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะว่าพระสาวกรุ่นแรกมีจ านวน
๖๐ รูป ในการท าหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นต้นแบบของพระธรรมทูต
ในประเด็นนี้เมื่อเปรียบเทียบกับการออกไปเผยแผ่พระศาสนาในต่างประเทศของพระธรรมทูตใน
ปัจจุบัน พระอรหันตสาวก ๖๐ รูปแรกที่จาริกไปประกาศพระศาสนาจัดว่าเป็นพระธรรมทูตชุดแรกใน
พระพุทธศาสนา สิ่งหนึ่งที่พระสาวกรุ่นต่อมาต้องเข้าใจให้ชัดเจนคือ พระสาวกผู้ท าหน้าที่เผยแผ่
พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาลนั้น ส่วนใหญ่เป็นพระอรหันต์หรือพระอริยบุคคลระดับรองลงมา
การเผยแผ่พระศาสนาจึงส าเร็จผลได้เป็นอย่างดี และพระสาวกผู้ท าหน้าที่เผยแผ่พระศาสนาแต่ละ
ท่านมีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว ไม่ใช่ทุกท่านที่จะมีความเชี่ยวชาญทุกด้านหรือมีความรู้ทุกเรื่อง
แต่ทุกคนต้องมีความรู้ที่เป็นแก่นหรือหลักส าคัญในพระพุทธศาสนาจึงท าให้การเผยแผ่
พระพุทธศาสนาส าเร็จได้ในระดับสูง การศึกษาความเป็นมาของการประกาศพระพุทธศาสนาและการ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาท าให้พระภิกษุสงฆ์สาวกในยุคหลังมีต้นแบบและวิธีการที่สามารถใช้เป็น
แบบอย่างของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แม้จะยังไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระธรรมทูตในสมัย
พุทธกาลก็ตาม สิ่งที่ต้องมีคือความรู้ในแก่นหรือหลักการส าคัญของพระพุทธศาสนา โดยสามารถ
ศึกษาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยตนเองจากพระคัมภีร์ เพื่อน ามาพัฒนาแนวทางการเผยแผ่
พระพุทธศาสนาของตนเอง และฝึกฝนพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติที่จ าเป็นต่อการท าหน้าที่เผยแผ่
พระพุทธศาสนาต่อไป
๒.๖ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหลังพุทธกาล
หลังพระพุทธองค์ทรงดับขันธปรินิพพาน ได้มีการท าสังคายนาหลักธรรมค าสอนหลายครั้ง
ครั้งแรกเกิดขึ้น โดยความด าริของพระมหากัสสปะ และได้รับการอุปถัมภ์จากพระเจ้าอชาตศัตรู
มีพระอรหันต์เข้าร่วม ๕๐๐ องค์ การสังคายนาครั้งที่สอง โดยความด าริของพระยศกากัณฑกบุตร
พระเจ้ากาลาโศกราชเป็นศาสนูปถัมภ์ มีพระอรหันต์เข้าร่วม ๗๐๐ องค์ การสังคายนาครั้งที่สาม
โดยความด าริของพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ พระเจ้าอโศกมหาราชเป็น ราชูปถัมภก มีพระอรหันต์
เข้าร่วม ๑,๐๐๐ รูป เพราะมีผู้ปลอมตัวบวชเข้ามาหาลาภสักการะในพระพุทธศาสนาจ านวนมาก
๑๒๑ ดูรายละเอียดใน วิ.จู. (ไทย) ๗/๔๐๒-๔๐๓/๓๑๓-๓๒๐.