Page 98 - STRATEGIES FOR BUDDHISM PROPAGATION OF OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHUS (PH.D.)
P. 98
๘๐
จะไป มีวิธีการที่จะสื่อสารกับเขาอย่างได้ผล และมุ่งมั่นต่ออุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา จึงจะท าให้
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดทั้งการฝึกอบรม
พระธรรมทูตเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และทัศนคติในด้านการประกาศและเผยแผ่
พระพุทธศาสนาด้วยแล้ว จึงเป็นสิ่งจ าเป็นที่จะช่วยให้พระธรรมทูตสายต่างประเทศสามารถท างานได้
อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
๓.๕ สถานการณ์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตสายต่างประเทศ
สถานการณ์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศ เป็นการ
เสนอโดยสรุปสาระส าคัญแบ่งตามทวีป ได้แก่ ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และทวีปโซน
โอเชียเนีย ตามล าดับดังนี้
๓.๕.๑ ทวีปเอเชีย
๓.๕.๑.๑ ประเทศศรีลังกา
ทวีปเอเชีย เป็นทวีปแรกที่คณะสงฆ์ไทยได้ท าหน้าที่พระธรรมทูตในการส่งพระภิกษุ
สงฆ์จาริกไปนอกแผ่นดินไทย เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ซึ่งประเทศศรีลังกาเป็นประเทศแรกที่ได้ขออาราธนาพระภิกษุสงฆ์
จากประเทศไทยให้เดินทางจาริกไปที่ประเทศศรีลังกา เพื่อท าการบรรพชาอุปสมบทให้แก่กุลบุตร
ชาวศรีลังกา เนื่องจากประเทศศรีลังกาไม่มีพระเถระที่สามารถท าหน้าที่เป็นพระอุปัชฌาย์ได้เอง
หัวหน้าคณะพระธรรมทูตที่เดินทางไปในเวลานั้นเป็นคณะแรก ได้แก่ พระอุบาลีและพระอริยมุนี
และคณะที่สองที่จาริกเพื่อผลัดเปลี่ยนหน้าที่กับคณะแรกมีหัวหน้าคณะ ได้แก่ คณะของ
พระวิสุทธาจารย์และพระวรญาณมุนี ด้วยในเวลานั้น ประเทศลังกามีนักบวชเหลืออยู่ก็แต่สามเณร
เพราะภัยทางสงคราม ซึ่งมีสามเณรรูปหนึ่งเป็นผู้มีความฉลาด และมีศรัทธามั่นคง ชื่อว่า สรณังกร
กษัตริย์ลังกาที่ครองราชย์ในเวลานั้น คือพระเจ้าศรีวิชัยราชสิงหะ ได้ปรึกษากับสามเณรสรณังกร
ในการจะตั้งสังฆมณฑลขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จึงแต่งทูตไปขอพระสงฆ์จากยะไข่อีกครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ
ซึ่งกรมพระยาด ารงราชานุภาพทรงวิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะพระสงฆ์ยะไข่เข็ดอากาศลังกา ที่ท าให้
๓๗
เจ็บป่วยมรณภาพไปหลายรูป หรือจะเป็นด้วยพระเจ้าแผ่นดินยะไข่ในเวลานั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ
ต่อมาพระเจ้าศรีวิชัยได้ทราบข่าวจากพวกพ่อค้าฮอลันดาว่า พระพุทธศาสนาในสยามประเทศนั้น
รุ่งเรืองยิ่งกว่าประเทศใด ๆ พระเจ้าศรีวิชัยจึงแต่งราชทูตมาขอคณะสงฆ์ยังกรุงสยามซึ่งตรงกับรัชสมัย
ของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๒๘๔ แต่ก็โชคร้ายเรือราชทูตอับปาง มีทูตเพียง ๔
คนที่รอดตายกลับมายังลังกาได้ แต่ด้วยพระราชศรัทธาฟื้นฟูพระศาสนา จึงทรงส่งราชทูตไปสยามอีก
๓๗ สมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพ, เรื่องประดิษฐานพระสงฆ์สยามวงศ์ในลังกาทวีป,
(กรุงเทพมหานคร: มติชน, ๒๕๔๖), หน้า ๑๒๕.