Page 258 - Full paper สอฉ.3-62
P. 258
โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุด ผลของการทดสอบชุดการสอน พบว่ารูปแบบการเรียนการ
การสอน เรื่อง ความรู้เบื้องต้นทางโลจิสติกส์ 1 ส าหรับนักเรียน สอนแบบบูรณาการ ที่สังเคราะห์ มีความเหมาะสม จากการ
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 สถิติที่ไซ้ไนการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระดับมาก (X =4.47, SD=0.55)
(mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) ผลการศึกษาพบว่า ชุด ประสิทธิภาพองชุดการสอนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 79.94/79.83 ต ่า
การสอนเรื่อง ความรู้เบื้องต้นทางโลจิสติกส์ 1 ที่สร้างขึ้นมี กว่าเกณฑ์ที่ก าหนด 80/80 การหาประสิทธิภาพของเมกุยเกนส์
ประสิทธิภาพ 84.61/85.33 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ผล ได้เท่ากับ 1.171 ซึ่งมีค่ามากกว่า 1 ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ผล
การประเมินคุณภาพชุดการสอน เรื่อง ความรู้เบื้องต้นทางโลจิ การวิเคราะห์ความแตกต่างทางการเรียน โดยการเปรียบเทียบ
สติกส์ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับเหมาะสมมาก (mean = คะแนนก่อนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ
4.22, SD.= 0.38) ที่ระดับ .05 มีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ จากการวิเคราะห์
5.2 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสาร ดัชนีความก้าวหน้าทางการเรียน (Effectiveness Index) มีค่า
ประกอบการสอน พบว่าเอกสารประกอบการสอนรายวิชาการ เท่ากับ 0.70 ซึ่งสูงกว่า 0.5 หมายถึงมีความก้าวหน้าทางการ
วิเคราะห์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 3105-1003 ตาม เรียนสูงขึ้นเป็นไปตามสมมุติฐาน ความพึงพอใจของผู้เรียนที่
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 ที่ ผ่านการเรียนตามรูปแบบ ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ
พัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.71 หมายความว่า มาก (X =4.24) และยังพบว่าผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความคิด
เอกสารประกอบการสอนท าให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ และมี ในเชิงทฤษฏีกับการปฏิบัติ มีทักษะในการสืบค้น การแก้ปัญหา
ความรู้เพิ่มขึ้นจากความรู้เดิม ร้อยละ 71 ที่เป็นเช่นนี้เพราะ มีการท างานรวมกลุ่ม และมีความใฝ่รู้ดีขึ้น
เอกสารประกอบการสอนที่พัฒนาขึ้นช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ 5.3 ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียน
ระหว่างครูผู้สอนกับนักศึกษาได้มากยิ่งขึ้น ให้โอกาสนักศึกษา และคะแนนทดสอบหลังเรียนของนักศึกษาแต่ละหน่วยการ
ในการศึกษาหาความรู้ และเรียนรู้ได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มความ เรียน และรวมทุกหน่วยการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ
พึงพอใจในการเรียน การศึกษาของเขา จึงได้สรุปว่า การเรียน ทางสถิติที่ระดับ .05 ที่เป็นเช่นนี้เพราะเอกสารประกอบการ
ด้วยเอกสารประกอบการสอนเป็นโอกาสของความท้าทายใน สอนได้จัดการเรียนเสมือนว่าเป็นสภาพแวดล้อมการเรียน การ
การเรียนการสอน เป็นความท้าทายน่าสนใจทั้งตัวผู้ครูสอน สอนที่ตั้งขึ้นในลักษณะของการเรียนแบบร่วมมือ ซึ่งเป็น
และนักศึกษาหรือนักศึกษาเช่นกัน นิติพัฒน์ พิสุทธิพงศ์ (2556 กระบวนการที่เน้นความส าคัญของกลุ่มที่จะร่วมมือท ากิจกรรม
: บทคัดย่อ) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร ร่วมกัน นักศึกษาและผู้สอนจะได้รับความรู้ใหม่ ๆ จาก
เหนือ ได้ท าการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบบูรณา กิจกรรมการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สอดคล้องกับ
การ โดยใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นชุดปฏิบัติการวัด งานวิจัยของวัชรี มูลทองสุข (2558 : บทคัดย่อ) ได้วิจัยเรื่อง ผล
เสมือนเรื่องวงจรกรองความถี่แบบแอกทีฟ โดย การใช้ชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์เรื่องการใช้โปรแกรม
วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือเพื่อสังเคราะห์รูปแบบการเรียน ตาราง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อผลิตชุดการสอน
การสอนแบบบูรณาการส าหรับ ประยุกต์ใช้ในการศึกษาด้าน แบบอิงประสบการณ์ เรื่อง โปรแกรมตารางท าการส าหรับ
วิศวกรรม เรื่องวงจรกรองความถี่แบบแอกทีฟ ประกอบด้วย นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ให้มีประสิทธิภาพตาม
ขั้นตอน การด าเนินการ 6 ขั้นตอน น าไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง เกณฑ์ที่ก าหนด 75/75 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ได้แก่นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาการวิเคราะห์ วงจร วิชาคอมพิวเตอร์เพื่องานอาชีพ เรื่อง โปรแกรมตารางท าการ 3)
อิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต เพื่อศึกษาความคิดเห็นชองนักเรียนระดับประกาศนียบัตร
สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม วิชาชีพที่มีต่อการใช้ขุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ สถิติที่
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ านวน 30 คน โดย ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาประสิทธิภาพด้วย E /E
1 2
การ สุ่มตัวอย่างง่าย และ (6) วิเคราะห์และสรุปผล การทดสอบค่าที (t) ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดการสอนแบบอิง
4
240