Page 32 - 02_สทธมนษยชนกบการปฏบตงานของตำรวจ_Neat
P. 32

๒๕




                                 (๑.๓)  สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (Civil and political rights) : สิทธิ
                 ของบุคคล เชน สิทธิในการแสดงความคิดเห็น, สิทธิในการมีสวนรวมทางการเมือง, สิทธิที่จะมีสัญชาติ,
                 สิทธิในกระบวนการยุติธรรม, สิทธิที่จะไดรับรูขาวสาร, สิทธิทางการศึกษา, สิทธิในการรักษาพยาบาล,
                 สิทธิในการทํางาน ฯลฯ

                            (๒)  สิทธิเชิงกลุม (Collective rights) เปนสิทธิในลักษณะกลุมซึ่งใหความสําคัญ
                 เหนือสิทธิสวนบุคคล เชน
                                 (๒.๑)  สิทธิชุมชน (Community rights) : พัฒนามาจากแนวคิดสิทธิมนุษยชน
                 เชื่อวาชุมชนมีสิทธิที่จะกําหนดแนวทางที่เหมาะสมแกชุมชนของตนเอง รวมถึงการรักษา ดูแล
                 ครอบครองไวซึ่งอัตลักษณ ความเชื่อ วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ทรัพยากรของชุมชนไวดวย


                  ¢ŒÍÊѧà¡μ :
                    ความหวาดกลัวตอแนวคิดสังคมนิยมในยุคสงครามเย็นเปนปจจัยหนึ่งที่ผลักดันใหสิทธิมนุษยชนในเชิง
                  รวมกลุมหรือสิทธิชุมชนไดรับการจัดตั้งขึ้นมาใหเปนรูปธรรม เชน ชุมชนดั้งเดิม ชุมชนพื้นเมือง กระจาย
                  แนวคิดทั่วโลกลดความเกรงกติการะหวางประเทศซึ่งนําไปสูการรับรองสิทธิของชุมชนที่ไดรับการยอมรับ
                    ทั่วโลก คือ การประชุมสุดยอดผูนําวาดวยการคุมครองสิ่งแวดลอมและการพัฒนาที่กรุงริโอเดอจาเนโร ในป

                  ๑๙๙๒ ที่ไดมีการรับรองสถานะของชนพื้นเมือง จากนั้นในป ค.ศ.๑๙๙๓ องคการสหประชาชาติไดประกาศ
                  ใหเปนปแหงชนพื้นเมืองโลก ๘


                                 (๒.๒)  สิทธิในการรวมกลุม สมาคม : เปนสิทธิขั้นพื้นฐาน ประชาชนมีสิทธิในการ

                 รวมกลุมในรูปแบบตางๆ เชน สหภาพ, สหพันธ, องคกรเอกชน ฯลฯ

                  ¢ŒÍÊѧà¡μ :
                    สิทธิเชิงปจเจกและสิทธิชุมชน อาจมีความคาบเกี่ยวกันอยูในบางประเด็น เชน การรวมกลุมทางการเมือง
                  ถือเปนสิทธิเชิงกลุมและเกี่ยวโยงกับสิทธิขั้นพื้นฐานของปจเจกชนทางดานสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
                  เชนกัน



                 ¡ÒÃẋ§»ÃÐàÀ·¢Í§ÊÔ·¸ÔÁ¹Øɪ¹μÒÁÂؤÊÁÑÂ

                            การแบงตามยุคสมัย เปนการแบงประเภทสิทธิมนุษยชนโดยนําประเด็นที่ไดรับความสนใจ
                                              ๙
                 ในแตละหวงเวลามาจัดกลุม และอิงตามผูมีหนาที่คุมครองสิทธิ (Rights bearer) ซึ่งมีทั้งที่ตองการ
                 พึ่งพาอํานาจรัฐและปฏิเสธไมใหอํานาจรัฐเขามายุงเกี่ยว การแบงเชนนี้ทําใหเห็นถึงพัฒนการทางดาน

                 สิทธิมนุษยชนของโลกไดอยางดี


                 ๘   นิตยา โพธิ์นอก, “ชุมชนกับสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม”, สืบคนเมื่อ ๑๕ ก.ค. ๒๕๖๐, จาก kpi.ac.th/media/pdf/
                   M10_298.pdf
                 ๙   การแบงสิทธิมนุษยชนออกเปน ๓ ยุคสมัย (Three generations of human rights) ขางตน ถูกกําหนดครั้งแรกโดย Karel Vasak
                   ผูอํานวยการสาขาสิทธิมนุษยชนและสันติภาพขององคการการศึกษา วิทยาศาสตร และวัฒนธรรมแหงสหประชาชาติ (UNESCO)
                   ในบทความที่เขาเขียนขึ้นเมื่อ ป ค.ศ.๑๙๗๗ ดู Karel Vasak, “Human Rights: A Thirty-Year Struggle: the Sustained Efforts
                   to give Force of law to the Universal Declaration of Human Rights,” UNESCO Courier ๓๐:๑๑ (๑๙๗๗).
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37