Page 74 - Proceeding of Atrans Young Researcher's Forum 2019_Neat
P. 74

“Transportation for A Better Life:
                                                                                                                       Smart Mobility for Now and Then”

                                                                                    23 August 2019, Bangkok, Thailand

             และตัวเครื่อง ท าบัดกรีต่อวงจรจากวงจรที่ได้จากการออกแบบไว้   คือเป็นกลุ่มตัวอย่างน าร่องที่มีความเหมาะสมในการใช้การวิจัยเชิง
             ประกอบวงจรเข้ากับกล่องที่ได้ออกแบบไว้ ท าการประกอบอุปกรณ์เข้า  ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ประยุกต์ใช้เป็น การวางแผน
             กับรถจักรยานยนต์ ทดลองหาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ปรับปรุงแก้ไข  เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม การให้กลุ่มเป้าหมายด าเนินการตามแผนที่
             ข้อบกพร่องแล้วทดลองซ ้า จัดท ารูปเล่มรายงาน      ได้วางไว้ การติดตามและประเมินผล ซึ่งสอดคล้องกับวิธีเสริมสร้างให้
             4.3 การประเมินและติดตามผล                        เกิดการเรียนรู้โดยทั่วไปเสนอโดยปาริชาติ วลัยเสถียร และคณะ ได้แก่

                    4.3.1 โรงเรียนสาขลาสุทธีราอุปถัมภ์        การเรียนรู้โดยลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้จากประสบการณ์ ภูมิปัญญา
                    ในภาพรวมภายหลังการด าเนินกิจกรรมเสริมสร้างความ  ท้องถิ่น กรณีศึกษา การถ่ายทอด การบอกเล่า ฯลฯ หรือการส่งเสริมการมี
             ปลอดภัยทางถนน นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีแนวโน้มของการ  ส่วนร่วมที่มีเทคนิคหลายอย่าง เช่น การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
             ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจ าวัน เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน  (Participatory Action Research: PAR) การควบคุมและชักชวนให้เล็งเห็น
             ดีขึ้นทุกด้าน โดยพฤติกรรมที่นักเรียนมีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ใน  คุณค่า (Appreciation Influence Control: AIC) กระบวนการเรียนรู้ทาง
             การปฏิบัติ “บ่อยครั้ง หรือ ท าทุกครั้ง” เพิ่มขึ้น คือ เรื่อง การข้ามถนนตรง  สังคม (Social Learning Process: SLP) (ปาริชาติ วลัยเสถียร และคณะ,
             ทางม้าลาย (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29 เป็น ร้อยละ 45.1) ส าหรับทัศนคติ   2543, น.10; น.69-95)
             นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีแนวโน้มของการปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อ  นอกจากนี้ แนวการจัดท าแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมครั้ง

             ความปลอดภัยทางถนนดีขึ้นทุกด้าน โดยทัศนคติที่นักเรียนมีความ  นี้ ยังสอดคล้องกับแนวคิดและขั้นตอนของประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
             เปลี่ยนแปลงมากที่สุดต่อพฤติกรรมที่ไม่ควรปฏิบัติซึ่ง “ไม่เห็นด้วยเลย   (Participatory Democracy) ที่นักเรียนสามารถหยิบยกสิ่งที่คิดว่าเป็ น
             หรือ ไม่ค่อยเห็นด้วย” เพิ่มขึ้น คือ “ถ้าอยู่ในช่วงรถติด การคุยโทรศัพท์  ปัญหาขึ้นมา เพื่อเสนอประเด็นปัญหาและทางเลือก สามารถพูดคุยกันได้
             หรือแชทบนมือถือเป็นเรื่องที่ท าได้ไม่เป็นอันตราย” (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ   อย่างทั่วถึง สามารถปรึกษาหารือ และร่วมกันสรุปประเด็นเพื่อหาทาง
             69.6 เป็น ร้อยละ 80.6)                           ออกเกี่ยวกับเรื่องแนวทางแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางจราจร ผ่านการจัดท า
                    4.3.2 วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท                โครงการที่ได้ร่วมกันวางแผนไว้ สอดคล้องกับรายงานสรุปของ
                                                              ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ว่าขั้นตอนของประชาธิปไตย
                    ในภาพรวมภายหลังการด าเนินกิจกรรมเสริมสร้างความ  แบบมีส่วนร่วมอาจแบ่งได้เป็น  4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การมีส่วนร่วม
             ปลอดภัยทางถนน นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีแนวโน้มของการ  วางแผน ด าเนินกิจกรรม จัดสรรผลประโยชน์ และติดตามประเมินผล
             ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจ าวัน เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน  (ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, 2556, น.19; 30)
             ดีขึ้นทุกด้าน โดยพฤติกรรมที่นักเรียนมีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ใน  5.2 การด าเนินกิจกรรมตามแผน
             การปฏิบัติ “บ่อยครั้ง หรือ ท าทุกครั้ง” เพิ่มขึ้น คือ เรื่อง การสวมหมวก
             นิรภัยเมื่อขับขี่หรือซ้อนจักรยานยนต์ (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.8 เป็น ร้อย  เนื่องจากการประยุกต์ใช้กระบวนการประชาธิปไตยแบบมี
             ละ 84.9) ส าหรับทัศนคตินักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีแนวโน้มของการ  ส่วนร่วม คณะผู้วิจัยจึงไม่ได้ท าการแทรกแซงความคิดเห็นระหว่าง
             ปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อความปลอดภัยทางถนนดีขึ้นเกือบทุกด้านเช่นกัน   กระบวนการจัดท าแผนของนักเรียนทั้งสองโรงเรียนมากนัก เพื่อให้
             มีทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมที่ไม่ควรปฏิบัติซึ่ง “ไม่เห็นด้วยเลย  นักเรียนได้มีโอกาสและมีอิสระในการตัดสินใจบนฐานจุดดี/ จุดด้อยของ
             หรือไม่ค่อยเห็นด้วย” ลดลงมากที่สุดในประเด็น การเพิ่มโทษทาง  ตนเองที่มีอยู่ สอดคล้องกับถวิลวดี บุรีกุล และคณะที่ระบุถึงขั้นตอนการ
             กฎหมายที่รุนแรงสามารถแก้ปัญหาพฤติกรรมขับขี่ได้ (ลดลงจากร้อยละ   จัดท าแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เริ่มตั้งแต่การก าหนดขอบเขตงานที่
             96.6 เหลือ 45.4) ส าหรับทัศนคติที่นักเรียนมีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด  จะท า การประกาศหัวใจแห่งชัยชนะ การระบุจุดแข็ง/ผลดี กับ จุดอ่อน/
             ต่อพฤติกรรมที่ไม่ควรปฏิบัติซึ่ง “ไม่เห็นด้วยเลย หรือ ไม่ค่อยเห็นด้วย”   ผลเสีย ไปจนถึงการไตร่ตรองแผน (ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ, 2555, น.
             เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ คือ “การต้องสวมหมวกกันน็อกในขณะที่ผู้อื่นที่อยู่  238-239) ซึ่งอาจเป็นผลท าให้แผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของ
             รอบข้างไม่สวมใส่ท าให้รู้สึกอึดอัด” (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.7 เป็น ร้อย  โรงเรียนสาขลาสุทธีราอุปถัมภ์ มีลักษณะคล้ายกันส่วนใหญ่เป็นโครงการ
             ละ 84.8)                                         ประเภทรณรงค์ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ท าความสะอาดผิวทาง เนื่องจาก
                                                              ขีดความสามารถและเงินอุดหนุนให้กับนักเรียนโรงเรียนนี้มีจ ากัด
             5. อภิปรายผลการศึกษา                                    จากข้อค้นพบยังอภิปรายได้ว่า โครงการของโรงเรียนสาขลา
                                                              สุทธีราอุปถัมภ์ทั้ง 5 โครงการมีความสอดคล้องกับมาตรการด้าน
             5.1 การจัดท าแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม          การศึกษา ซึ่งเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้อง การให้
                    พื้นที่ศึกษาครั้งนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายเยาวชนในสถานศึกษาสอง  ความรู้เกี่ยวกับกฎการจราจร การเผยแพร่ความรู้และรณรงค์ผ่านสื่อต่าง ๆ
             ระดับที่ต่างกัน คือ ระดับมัธยมต้น และระดับอนุปริญญา จุดร่วมส าคัญ  เป็นต้น อย่างไรก็ดี มีโครงการที่เกี่ยวกับการท าความสะอาดถนนที่อาจ




                                                           49
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79